ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี หลายคนอยากจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป การล้างรถยนต์ด้วยตัวเอง จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนมีรถเลือกล้างรถแทนที่จะไปเข้าคาร์แคร์ แล้วแบบนี้ เราจะล้างรถยังไง ให้สะอาดเอี่ยมเหมือนออกมาจากคาร์แคร์ได้บ้างนะ มาดูเทคนิคกันดีกว่า
ล้างรถ ต้องล้างด้วยน้ำเปล่า
หลายคนชอบลักไก่ไม่ล้างรถบ่อยๆ รอให้วันไหนฝนตก ก็นำไปจอดกลางแจ้ง หรือขับรถออกไปเจอฝน เราบอกเลยว่า วิธีการนั้นจะยิ่งทำให้คราบสกปรกเหล่านั้นแห้ง และติดเกรอะกรัง ล้างออกยากยิ่งกว่าเดิมซะอีก
ถ้าต้องการจะล้างรถจริงๆ ควรใช้น้ำเปล่า ล้างด้วยแชมพูสำหรับการล้างรถโดนเฉพาะ จะได้รถที่สะอาดเอี่ยม ล้างคราบสกปรกต่างๆ เช่น คราบฝุ่น คราบดิน ที่เกาะอยู่บนตัวรถได้ดีกว่า แถมยังช่วยถนอมสีรถให้คงทนได้มากกว่า
โดยการใช้น้ำเปล่าล้างรถให้สะอาด ควรฉีดไล่น้ำตั้งแต่ด้านบนลงมาด้านข้าง และด้านล่าง เพื่อล้างคราบสกปรกต่างๆ ให้หลุดออกไปจากตัวรถให้มากที่สุด
สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด คือ การฉีดน้ำแรงๆ เพื่อขจัดคราบสกปรกออกจากตัวรถ แต่วิธีที่ถูกต้องคือ ไม่ฉีดล้างแรงๆ เพราะจะเป็นการทำลายพื้นผิวสีรถยนต์โดยไม่จำเป็น หากอยากขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่น ควรใช้ผ้า หรือฟองน้ำช่วยจะดีกว่าการฉีดน้ำแรงๆ ย้ำๆ ใส่พื้นผิวเดิมเป็นระยะเวลานานๆ
นอกจากนี้ ควรแยกน้ำออกเป็น 2 ถัง ถังแรกใช้สำหรับผสมน้ำยาล้างรถ ส่วนถังที่ 2 เอาไปไว้จุ่มล้างเมื่อขัดบนตัวรถมาแล้ว ก่อนที่จะนำไปชุบถังที่ผสมน้ำยาล้างรถ และควรเปลี่ยนน้ำในถังบ่อยๆ ด้วย
หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ หรือน้ำยาล้างจาน ในการล้างรถ
หลังจากที่ใช้น้ำล้างคราบสกปรกส่วนใหญ่ออกได้แล้ว ขั้นตอนต่อมา คือการใช้น้ำยาล้างรถ แนะนำว่า ควรใช้ น้ำยา หรือแชมพูที่ใช้ล้างรถโดยตรงจะดีกว่า เพราะนอกจากจะทำให้รถยนต์สะอาด มันวาวแล้ว บางยี่ห้อยังมีสารเคมีที่ทำให้สีสวยชัด เงางาม ถนอมสีรถได้ดี ที่สำคัญ ต้องผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำลงในถังน้ำตามคำแนะนำข้างขวด จึงจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วน สบู่ หรือน้ำยาล้างจาน แนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดคราบสกปรกบนพื้นผิวของตัวรถและล้อรถ หากนำมาใช้ล้างรถ อาจทำให้เกิดรอยด่างหรือเกิดคราบเปื้อนรถได้ง่าย แถมยังทิ้งคราบหลงเหลือไว้บนตัวรถ และสีรถยังหมองง่าย
นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง (wax) เพราะจะทำให้ผิวสีเหนียวเหนอะ ฝุ่นเกาะง่ายด้วย
เลือกใช้ ฟองน้ำเนื้อละเอียด-ผ้านุ่มสะอาด
ถ้าอยากให้รถยังมีสีเงางาม ไร้รอยขีดข่วน ให้ใช้ฟองน้ำเนื้อละเอียด หรือผ้านุ่มๆ ในการล้าง ขัด หรือกระทั่งใช้เช็ดรถให้แห้งสนิทในขั้นตอนสุดท้าย เพราะถ้าเราไม่หมั่นซัก และขยี้ผ้าที่ใช้ล้างรถบ่อยๆ อาจจะมีเศษดินทรายติด เมื่อนำมาขัดล้างรถก็จะขูดขีดให้เกิดรอยได้เช่นกัน
หลักการเลือกฟองน้ำที่ง่ายที่สุดคือ เน้นเนื้อนุ่มไว้ก่อน เพื่อป้องกันการเกิดรอยขณะล้างรถ และฟองน้ำสามารถอุ้มฟองแชมพู จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยังช่วยประหยัดแชมพูล้างรถอีกด้วย
หลังจากที่ล้างคราบสกปรกออกแล้ว ให้เริ่มต้นใช้ฟองน้ำขัดที่ล้อทั้ง 4 ล้อ เป็นขั้นตอนแรก เพื่อกันไม่ให้สิ่งสกปรกจากล้อกระเด็นไปเปรอะตัวรถ ส่วนพื้นผิวบริเวณอื่นๆ ให้ขัดถูตามแนวยาวของรถ เพราะจะทำให้ขจัดคราบสกปรกต่างๆ ได้ดีกว่าการขัดวนๆ
อย่ารอให้รถยนต์แห้งเอง
หลังจากที่ล้างรถจนเสร็จ ไม่ควรนำรถไปตากแดดทันทีโดยที่รถยังไม่แห้ง เพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำเกาะแน่นบนตัวรถแทน แต่คุณควรใช้ผ้าชามัวร์ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะ
ส่วนวิธีเช็ด ให้คุณไล่เช็ดจากบนหลังคาแล้วไล่ลงมาที่ด้านล่าง เช็ดให้แน่ใจว่าแห้งสนิท แนะนำให้ใช้ผ้าหลายๆ ผืน เพราะการใช้ผ้าหลายๆ ผืนจะทำให้มีโอกาสเกิดลอยขนแมวได้น้อย เช่น ใช้ผ้าเช็ดรถทั้งหมดจำนวน 3 ผืน แล้วแยกส่วนกันใช้ คุณอาจจะใช้ผืนแรกเช็ดบนหลังคา อีกผืนใช้เช็ดตัวรถ ส่วนผืนสุดท้ายใช้เช็ดล้อรถ เพื่อความสะอาด และเงางาม
การเช็ดรถยนต์ให้แห้ง นอกจากจะช่วยให้รถไม่มีคราบน้ำ ป้องกันการเกาะติดของฝุ่นสกปรกแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมอีกด้วยนะ
สำหรับในช่วง โควิด-19 แบบนี้ คุณอาจจะเพิ่มขั้นตอนการทำความสะอาดภายในรถยนต์ ด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า รถยนต์ของคุณสะอาดทั้งภายใน และภายนอก
เพียงเท่านี้ รถยนต์ของคุณก็สะอาดเอี่ยม เหมือนออกมาจากคาร์แคร์แล้ว และแน่นอนว่ารถสวย ๆ แบบนี้ คุณคงไม่อยากให้เกิดเรื่องคาดฝันขึ้นกับรถคันโปรดแน่ๆ
งั้นต้องนี่เลย ประกันรถยนต์ จาก
rabbit finance ที่ช่วยให้คุณอุ่นใจมากตลอดการขับขี่ เพราะเรามี
ประกันรถยนต์ราคาถูก สบายกระเป๋า ให้คุณเลือกจากหลากหลายบริษัท พร้อมบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ แถมซื้อออนไลน์ได้ง่ายๆ อีกด้วย