6 ขั้นตอนที่ต้องเช็ค! ก่อนขับรถออกไปเที่ยวแคมปิ้ง
อัพเดทเมื่อ Wed Apr 21 2021
6 เคล็ดลับต้องทำ ก่อนขับรถออกท่องเที่ยว
1.วางแผนการเดินทาง
เมื่อรู้แล้วว่า เรากำลังจะไปเที่ยวแคมป์ปิ้งที่ไหน หลังจากนั้นก่อนการเดินทางต้องทำการวางแผนเส้นทางนั้น ๆ ว่าการเดินทางเป็นอย่างไร มีขึ้นเขา หรือทางขรุขระหรือไม่ มีทางโค้ง หรือทางอันตรายต่าง ๆ ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางเท่าใด และระหว่างการเดิน มีปั๊มน้ำมัน มีห้องน้ำหรือไม่ เพื่อดูว่าสภาพรถของเราจะไปได้หรือไม่ และจะได้ทำการตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทางด้วย
2.ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทาง
ก่อนออกเดินทางต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ล่วงหน้าประมาณ 3 - 7 วัน เพื่อดูให้แน่ใจว่า รถยนต์ของเรานั้นมีตรงไหนที่บกพร่องบ้าง เพื่อจะได้ทำการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง เพราะเมื่อออกเดินทางจริง ๆ แล้วเราก็จะได้มั่นใจ และเพิ่มความปลอดภัยด้วย ซึ่งสิ่งที่จะเช็คนั้นส่วนใหญ่แล้วมีดังนี้
● ยางรถยนต์ ควรตรวจเช็คยางก่อนออกเดินทางไกล ควรเติมลมยางจากปกติเพิ่มอีก 1-2 ปอนด์ รวมถึงตรวจสอบยางอะไหล่ต่าง ๆ ด้วย
● ดูไฟสัญญาณต่าง ๆ ว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ ทั้งไฟหน้าส่องทาง ไฟท้าย ไฟสูง - ต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรค หรือไฟขอทาง
● เช็คที่ปัดน้ำฝนทั้ง 2 ข้าง หากชำรุดหรือเสียหายต้องรีบเปลี่ยนทันที เพราะหากอยู่ในระหว่างทางที่ต้องเจอกับฝนตกหนัก ๆ จะช่วยให้เรามีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น
● กระจกข้าง กระจกมองหลัง ควรตรวจเช็คให้เรียบร้อยเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในระหว่างการขับรถยนต์ที่จะทำให้เรามองทาง มีรถข้าง ๆ ข้าง หลัง ได้อย่างรอบทิศนั่นเอง
● ผ้าเบรค น้ำมันเบรค และน้ำมันเครื่องต่าง ๆ ต้องไม่ลืมที่จะทำการตรวจเช็ค
3.เทคนิคการขับรถทางไกลต้องศึกษา
ก่อนจะออกเดินทางไกลท่องเที่ยวนอกจากจะต้องศึกษาเส้นทางเพื่อการวางแผนให้เกิดความปลอดภัยแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ถึงเทคนิคพิเศษต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น เช่น ควรจำกัดความเร็วขของรถ ไม่ให้เร็วมากไป โดยเฉพาะเวลาเกิดฝนตก เลี้ยวโค้ง อาจจะทำให้เป็นอันตรายได้ หรือไม่ขับรถประมาท ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา หรือ เมาแล้วขับ อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น เป็นต้น
4.เติมน้ำมันให้เต็มถัง
ก่อนออกเดินทางควรเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพราะระหว่างทางที่เราเดินทางไปยังสถานที่แคมป์ปิ้งนั้น ก็ไม่ทราบได้ว่าจะมีปั้มน้ำมันให้เติมเพิ่มได้หรือไม่ หรือการเดินทางจะลำบากขนาดไหน ฉะนั้นแล้วเพื่อไม่ให้ประมาทควรเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด
5.เบอร์โทรฉุกเฉินต้องมี
ระหว่างเดินทางเราไม่สามารถทราบได้เลยว่า จะเกิดอุบัติเหตุอะไรบ้าง ฉะนั้นแล้วเราจึงต้องควรมีเบอร์สำคัญอย่างทางหลวง โทร.1586 ไว้ด้วย หรือ เบอร์โทรเหตุด่วนเหตุร้าน โทร. 191 หรือตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155 ไว้ด้วย นอกจากนี้ก็ควรพกอุปกรณ์สำคัญในสื่อสารไว้ด้วย เช่น Power Bank ติดไว้เพื่อแบตเตอร์รี่หมด ติดกล้องวงจรปิดไว้ในรถยนต์ เป็นต้น
6.เช็กประกันรถยนต์
ในระหว่างการเดินทางเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุที่เราไม่คาดฝัน เจ้าของรถยนต์อาจจะต้องการขอความช่วยเหลือจากบริษัทประกันเป็นการเร่งด่วน จึงเป็นอีกหนึ่งข้อที่ต้องพิจารณาตรวจสอบก่อนเดินทางว่าประกันรถยนต์ของเรานั้นยังไม่เกินอายุ หรือถ้าเกินอายุไปแล้วก็ต้องรีบต่อประกันรถยนต์ทันที
เช็กประกันรถยนต์ หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ที่ rabbit finance
1.วางแผนการเดินทาง
เมื่อรู้แล้วว่า เรากำลังจะไปเที่ยวแคมป์ปิ้งที่ไหน หลังจากนั้นก่อนการเดินทางต้องทำการวางแผนเส้นทางนั้น ๆ ว่าการเดินทางเป็นอย่างไร มีขึ้นเขา หรือทางขรุขระหรือไม่ มีทางโค้ง หรือทางอันตรายต่าง ๆ ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางเท่าใด และระหว่างการเดิน มีปั๊มน้ำมัน มีห้องน้ำหรือไม่ เพื่อดูว่าสภาพรถของเราจะไปได้หรือไม่ และจะได้ทำการตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทางด้วย
2.ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทาง
ก่อนออกเดินทางต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ล่วงหน้าประมาณ 3 - 7 วัน เพื่อดูให้แน่ใจว่า รถยนต์ของเรานั้นมีตรงไหนที่บกพร่องบ้าง เพื่อจะได้ทำการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนการเดินทาง เพราะเมื่อออกเดินทางจริง ๆ แล้วเราก็จะได้มั่นใจ และเพิ่มความปลอดภัยด้วย ซึ่งสิ่งที่จะเช็คนั้นส่วนใหญ่แล้วมีดังนี้
● ยางรถยนต์ ควรตรวจเช็คยางก่อนออกเดินทางไกล ควรเติมลมยางจากปกติเพิ่มอีก 1-2 ปอนด์ รวมถึงตรวจสอบยางอะไหล่ต่าง ๆ ด้วย
● ดูไฟสัญญาณต่าง ๆ ว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ ทั้งไฟหน้าส่องทาง ไฟท้าย ไฟสูง - ต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรค หรือไฟขอทาง
● เช็คที่ปัดน้ำฝนทั้ง 2 ข้าง หากชำรุดหรือเสียหายต้องรีบเปลี่ยนทันที เพราะหากอยู่ในระหว่างทางที่ต้องเจอกับฝนตกหนัก ๆ จะช่วยให้เรามีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น
● กระจกข้าง กระจกมองหลัง ควรตรวจเช็คให้เรียบร้อยเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในระหว่างการขับรถยนต์ที่จะทำให้เรามองทาง มีรถข้าง ๆ ข้าง หลัง ได้อย่างรอบทิศนั่นเอง
● ผ้าเบรค น้ำมันเบรค และน้ำมันเครื่องต่าง ๆ ต้องไม่ลืมที่จะทำการตรวจเช็ค
3.เทคนิคการขับรถทางไกลต้องศึกษา
ก่อนจะออกเดินทางไกลท่องเที่ยวนอกจากจะต้องศึกษาเส้นทางเพื่อการวางแผนให้เกิดความปลอดภัยแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ถึงเทคนิคพิเศษต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น เช่น ควรจำกัดความเร็วขของรถ ไม่ให้เร็วมากไป โดยเฉพาะเวลาเกิดฝนตก เลี้ยวโค้ง อาจจะทำให้เป็นอันตรายได้ หรือไม่ขับรถประมาท ไม่ดื่มเครื่องดื่มมึนเมา หรือ เมาแล้วขับ อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง และผู้อื่น เป็นต้น
4.เติมน้ำมันให้เต็มถัง
ก่อนออกเดินทางควรเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพราะระหว่างทางที่เราเดินทางไปยังสถานที่แคมป์ปิ้งนั้น ก็ไม่ทราบได้ว่าจะมีปั้มน้ำมันให้เติมเพิ่มได้หรือไม่ หรือการเดินทางจะลำบากขนาดไหน ฉะนั้นแล้วเพื่อไม่ให้ประมาทควรเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด
5.เบอร์โทรฉุกเฉินต้องมี
ระหว่างเดินทางเราไม่สามารถทราบได้เลยว่า จะเกิดอุบัติเหตุอะไรบ้าง ฉะนั้นแล้วเราจึงต้องควรมีเบอร์สำคัญอย่างทางหลวง โทร.1586 ไว้ด้วย หรือ เบอร์โทรเหตุด่วนเหตุร้าน โทร. 191 หรือตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155 ไว้ด้วย นอกจากนี้ก็ควรพกอุปกรณ์สำคัญในสื่อสารไว้ด้วย เช่น Power Bank ติดไว้เพื่อแบตเตอร์รี่หมด ติดกล้องวงจรปิดไว้ในรถยนต์ เป็นต้น
6.เช็กประกันรถยนต์
ในระหว่างการเดินทางเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุที่เราไม่คาดฝัน เจ้าของรถยนต์อาจจะต้องการขอความช่วยเหลือจากบริษัทประกันเป็นการเร่งด่วน จึงเป็นอีกหนึ่งข้อที่ต้องพิจารณาตรวจสอบก่อนเดินทางว่าประกันรถยนต์ของเรานั้นยังไม่เกินอายุ หรือถ้าเกินอายุไปแล้วก็ต้องรีบต่อประกันรถยนต์ทันที
เช็กประกันรถยนต์ หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ที่ rabbit finance