6 นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2021 ที่ไม่ควรพลาด
อัพเดทเมื่อ Wed Apr 21 2021
6 รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจ
● Volkswagen ID.4
พัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ มากมายเช่นสถานีจ่ายไฟ ระบบ MEB ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึง หุ่นยนต์ชาร์จไฟอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 2 ของ Volkswagen เป็นรถ SUV 5 ประตู การตกแต่งภายนอกและภายใน เรียบหรูด้วยห้องโดยสารกว้าง พวงมาลัยพับเก็บได้ และมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์สำหรับคนชอบเดินทางไกล นั่นคือเบาะนั่งด้านหน้าที่มีระบบนวด ใช้ระบบชาร์จเร็ว 10 นาที วิ่งได้ 100 กม. หรือแบตเตอรี่พร้อมวิ่งได้ไกล 402 กม. / ชาร์จไฟเต็ม ด้วยระบบมอเตอร์คู่ (dual-motor) ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 201 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. เตรียมวางจำหน่ายเมษายน พ.ศ. 2564 สนนราคาเริ่มต้นที่ 39,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.2 ล้านบาท
● Ford Mustang Mach-E
รถยนต์คอร์ดโอเวอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของฟอร์ดบนตัวถัง SUV หรือรถอเนกประสงค์ จากแบรนด์สายเลือดอเมริกัน ซึ่งถือเป็นรถยนต์ EV รุ่นหนึ่งที่ดีที่สุดของ Ford ซึ่งมีหลายรุ่น หลายสเปก ให้เลือก เช่น Mustang Mach-E SELECT ราคา 2,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.3 ล้านบาท, Mustang Mach-E CALIFORNIA ROUTE 1 ราคา 49,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.5 ล้านบาท, Mustang Mach-E PREMIUM ราคา 47,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.4 ล้านบาท, Mustang Mach-E GT (ตัวท็อป) ราคา 60,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.8 ล้านบาท และ Mustang Mach-E FIRST EDITION ราคา 59,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.79 ล้านบาท มีพละกำลัง 259 - 480 แรงม้า แบตเตอรี่พร้อมวิ่งสูงสุด 480 กม. / ชาร์จไฟเต็ม สามารถทำความเร็ว 0-100 กม. / ชม. ใน 6 วินาที และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว เพียงแค่ 30-40 นาที จาก 0-80%
● MG ZS EV
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยรูปลักษณ์ SUV ที่ยังคงความหรูหราและมีสไตล์ ให้ความรู้สึกสปอร์ต หรูหรา พื้นที่นั่งกว้างขวาง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ออกแบบให้เอียง เข้าหาคนขับ เพื่อให้เกิดมุมมองที่เห็นครอบคลุม ระบบความปลอดภัย ด้วยระบบเคลื่อนล้อหน้ากำลัง 150 แรงม้า ทำความเร็ว 0-50 กม. / ชม. ใน 3.1 ความจุแบตเตอรี่ 44.5 kWhวินาที วิ่งได้ไกลสูงสุด 337 กม./ชาร์จไฟเต็ม การชาร์จแบบ Quick Charge ทำเวลาอยู่ที่ 30 นาที จาก 0-80 % มีวางจำหน่ายในไทยแล้ว สนนราคาที่ 1,190,000 บาท
● Nissan Leaf
มาจากค่ายญี่ปุ่น ถือเป็นค่ายแรกๆ ที่นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดในไทย ถูกออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น พัฒนาตามหลักอากาศพลศาสตร์ คือออกแบบให้พุ่งทะยานผ่านสายลม ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า Front-Wheel เครื่องยนต์ 150 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 144 กม./ชั่วโมงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ใน 7.9 วินาที แบตเตอรี่ 40 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 311 กม. / ชาร์จไฟเต็ม พร้อมเอกลักษณ์ด้วยกระจังหน้า V-Motion ไฟทรงบูมเมอแรง ส่วนภายในห้องโดยสาร หุ้มเบาะด้วยหนังสังเคราะห์โทนสีดำ ตัดขอบสีฟ้า กว้างขวางทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ราคา 1,990,000 บาท
● BYD E6
รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ถือเป็นอีกแบรนด์ที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย ดีไซน์ภายนนอกอาจไม่ค่อยโดดเด่น มีแค่ความเท่จากไฟหน้า Projector พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED กับไฟเลี้ยวเสริมที่ติดบนกระจกมองข้าง เพิ่มความเท่ได้ไปอีกแบบ ภายในตกแต่งใช้สีดำตลอดทั้งคัน และมีแผงหน้าปัด LCD มาให้ด้วย ส่วนพละกำลัง 121 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8 วินาที แบตเตอรี่ 80 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 300 กม./ชาร์จไฟเต็ม ชาร์จเร็ว 2 ชั่วโมง ชาร์จปกติ 8-9 ชั่วโมง ราคา 1.89 ล้านบาท
● Mazda MX-30
ออกแบบเป็นรูปทรงรถยนต์ Crossover SUV ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก มาพร้อมหน้าจอดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว และระบบ Mazda Connect infotainment system นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Android Auto และ Apple Carplay ด้วย ขณะที่กำลัง 143 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม. แบตเตอรี่ความจุ 35.5 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 180 กม./ชาร์จไฟเต็ม ระบบชาร์จปกติ 5 ชม. 45 นาที เทคโนโลยีชาร์จเร็วจาก 0-80% ใน 30 นาที ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี แม้จะได้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดีเยี่ยมแล้ว การมีประกันรถยนต์ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญด้วยเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะขับขี่ออกมาบนรถหนทาง บางครั้งแม้ว่าเราจะขับรถอย่างระมัดระวังแล้วก็ตาม แต่อาจจะต้องเจอคนที่ไม่ได้ระมัดระวังเหมือนอย่างเราก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นแล้วใครที่สนใจทำประกันรถยนต์ราคาถูก