วิธีเช็กสภาพรถยนต์ง่ายๆ ก่อนเดินทาง

อัพเดทเมื่อ Tue Apr 27 2021

https://tiresbid-images.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/2021-04-27/165854-1619517534-Header-.webp
ก่อนจะขับพารถคู่ใจไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง เราได้ตรวจเช็กสภาพรถกันแล้วหรือยัง หากคุณไม่ได้ตรวจก็จะต้องนำรถมาเช็กสภาพกันก่อน ไม่ว่าจะเป็นตัวถัง ห้องเครื่องยนต์ หรือห้องโดยวารรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่ทุกเส้นทาง เรามาดูวิธีการเช็กรถยนต์กันเลย แถมทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

1. ตรวจสภาพตัวถัง



ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นผู้เชียวชาญด้านรถเฉพาะ แต่เราก็สามารถตรวจดูเบื้องต้นได้ง่ายๆ เพียงสังเกตตามขั้นตอน ดังนี้
     •    เริ่มจากด้านหน้ารถยนต์์ ให้เช็กไฟหน้ารถ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยวซ้าย ไฟเลี้ยวขวา และตรวจไฟด้านหลังรถให้หมด
     •    ตรวจสอบว่ากระจกมองข้างรถมีรอยร้ายหรือไม่ จะต้องมองเห็นให้ชัดเจน อันนี้สำคัญมากๆ
     •    เช็กเสียงแตรรถว่ายังคงดังปกติหรือไม่ เผื่อเราจำเป็นต้องใช้แตรรถช่วยในการขับขี่บนท้องถนนกรณีรถเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
จากนั้นอย่าลืมตรวจลมยางด้วยการสังเกต หรือจับยางว่ายางรถทั้ง 4 ด้านอ่อนกว่าปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตามเราจะต้องเปลี่ยนยางรถทุกๆ 10,000 - 15,000 กิโลเมตร เช็กอายุยางรถยนต์ใช้เป็นเวลานาน 3-5 ปี เพื่อความปลอดภัยในเวลาขับขี่ด้วย หากพบว่ายางรถยนต์เกิดมีปัญหา เช่น ดอกยางสึก ลมยางอ่อนเกินไป จะต้องไปตรวจสภาพยางรถเช็กทันทีครับ

2.ตรวจห้องเครื่องรถยนต์ 



มาถึงขั้นตอนการตรวจห้องเครื่องยนต์กันบ้าง อันนี้แนะนำให้เราใส่ถุงมือกันก่อนนะครับ เพราะเราจะต้องเปิดกระโปรงรถ เพื่อตรวจเช็กสภาพรถกันหน่อย 
•    เช็กสภาพรถด้วยตาเปล่า หากเครื่องยนต์มีฝุ่นสกปรกก็ให้เช็กทำความสะอาด และไล่เช็กตามท่อว่ามีรอยรั่วซึมไหม 
•    เช็กน้ำมันเครื่อง เช่น ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ จะต้องตรวจเช็ก 1-2 ครั้ง/สัปดาห์
•    หมั่นดูไส้กรอกอากาศ อันนี้สามารถเช็กได้ด้วยตัวเองเลย ว่าไส้กรอกสะอาดไหม เพราะถ้าคุณใช้งานรถนานๆ ไส้กรองอากาศจะมีฝุ่นและสกปรกทำให้เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศเมื่อเสื่อมสภาพ
 
3. ตรวจห้องโดยสารรถยนต์



ตามด้วยห้องโดยสารรถยนต์ อันนี้สังเกตได้ไม่ยากเลย เพียงดูกระจกมองหลัง (ให้มองจากมุมมองของคนขับ) สภาพเบาะที่นั่งคนขับ พวงมาลัยรถ ระบบเกียร์และเบรค รวมถึงแอร์ในรถเย็นหรือไม่ แนะนำค่อยๆ ไล่ตรวจเช็กห้องโดยสารไปทีละจุด หรือจะลองขับระยะใกล้เพื่อเช็กระบบการทำงานของเครื่องยนต์ได้ครับ
แต่ถ้าใครไม่มั่นใจว่า รถยนต์ของเราสภาพดีจริงๆ ไหม ก็สามารถนำรถของคุณเข้าศูนย์ตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ได้ ทั้งตัวถัง เครื่องยนต์ ลมยาง หรือห้องโดยสารภายใน ทางช่างผู้เชี่ยวชาญจะช่วยตรวจสอบให้ เพียงเท่านี้ก่อนออกเดินทางคุณก็อุ่นใจ เตรียมขับรถยาวๆ เลยครับ นอกจากนี้อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ควบคู่กันด้วยนะ อย่างน้อยๆ จะได้มีคนคอยช่วยดูแลทั้งรถทั้งคนให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : bolttech.co.th