บทความรู้ ข้อเสียระหว่างยางเปอร์เซ็นต์ ยางมือสองปัญหามากมายควรรู้ By Tiresbid
อัพเดทเมื่อ Thu May 06 2021
สวัสดีครับชาว Tiresbid ทุกท่านพบกับ จอร์จไทร์บิด ผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ กันอีกเช่นเคยนะครับ พร้อมแนะนำเรื่องยาง เรื่องง่ายและเกร็ดความรู้ดีๆมากมาย ให้ได้อ่านกันแบบฟรีๆเป็นประจำที่ Tiresbid Blog เท่านั้น ถ้าเพื่อนๆชอบรับชมวิดิโอต้องไม่พลาด ! รีวิวยาง & บทความรู้ดีๆบน YouTube : http://bit.ly/TiresbidYoutube
ช่วงนี้เพื่อนๆสอบถามกันเข้ามาหลายท่านนะครับ จอร์จ เลยนำมาทำเสนอเกร็ดความรู้สักหน่อย อย่างแรกเลยความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง คือ แนวคิดว่ายางรถยนต์แต่ละยี่ห้อเหมือนกันหมด เพราะยางแต่ละรุ่นจะมีหน้าตาเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วคุณสมบัติของมันอาจต่างไปอย่างสิ้นเชิงเลยครับ
สำหรับเจ้าของรถโดยทั่วไปนั้น เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง ก็มักเลือกยางที่มีราคาถูกกว่าตลาดไว้ก่อน มองหารุ่นที่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ขอเพียงแค่มีขนาดเท่ากับของเดิมเท่านั้น สภาพเป็นอย่างไรก็มองข้ามไป แต่ในความจริงแล้ว ยางแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกัน เพราะมันมีคุณสมบัติต่างกันออกไป ซึ่งเหล่านี้อาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ทั้งยางสภาพใหม่แต่ปีเก่า(มากกว่า 3 ปี), ยางตกปี, ยางมือสอง, ยางเปอร์เซ็นต์, ยางป้ายแดง แต่ที่มาที่ไปและการรับประกันเป็นอย่างไร หลายท่านไม่อาจทราบได้แน่ชัดเลยครับ
จอร์จไทร์บิด จึงขอชี้เป้า 4 ข้อเสียของยางเปอร์เซ็นต์ ยางป้ายแดง ยางมือสอง ฯลฯ แม้ว่าจะเป็นยางสภาพใหม่ก็ตาม แต่ควรจะพิจารณาจากข้อมูลนี้ให้ดีก่อนจะซื้อหรือเปลี่ยนยางใหม่ครับ (เปลี่ยนแต่ละทีก็ใช้ไปหลายปี) อยากจะเสริม คือ กลุ่มยางเหล่านี้มักจะพบได้ทั้งยางแบรนด์ดัง หรือ ยางอินโด และ ยางจีน ซึ่งยางจีนจะมีโอกาสเกิดความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก จากสูตรการผลิตยางจากโรงงานที่ไม่ได้ประสิทธิภาพทัดเทียมกับแบรนด์ยางชั้นนำลงทุนงานวิจัยการผลิตยางที่ดีกว่าได้มาตรฐานการรับรองที่สูงกว่าครับ
1.ยางเสียงดัง
ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ เจ้าของรถมักสัมผัสได้ทันทีว่ารถเงียบขึ้น นุ่มนวลขึ้น เนื่องจากยางชุดเก่าถูกใช้จนแข็ง ซึ่งในช่วงแรก ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงหรือยางใหม่มักให้ความเงียบไม่ต่างกันมากนัก(กรณีในสภาพที่ดี) แต่เมื่อพ้น 1 หมื่นกิโลขึ้นไปหรือน้อยกว่านั้นยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงมักเริ่มส่งเสียงดังมากกว่า และจะได้ยินชัดเจนโดยเฉพาะรถญี่ปุ่นรุ่นเล็กที่มีวัสดุซับเสียงน้อยเป็นเพราะเนื้อยางที่เสื่อมสภาพแข็ง ซึ่งเพื่อนลองนึกสภาพดูว่ายางแข็งๆกระทบที่พื้นจะเสียงดังกันขนาดไหนครับ
2.ความทนทานน้อยกว่า
แม้ว่ายางเปอร์เซ็นต์จะมีการสึกหรอน้อยกว่า ทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่าซึ่งเป็นสาเหตุที่เกิดจากยางที่เสื่อมสภาพและแข็งหรือเรียกว่ายางตายครับ ยางจะมีการสึกที่น้อยมากจนแทบไม่สึกเลยครับ ส่วนยางบางรุ่นอาจเกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อยางได้เร็ว ส่งผลให้เกิดการปริแตกของหน้ายางหรือแก้มยางแม้ว่าจะยังคงมีดอกเหลือก็ตาม ซึ่งรอยปริเหล่านี้จะทำให้โครงสร้างความแข็งแรงของยางลดลง อาจทำให้ยางแตกได้เมื่อขับตกหลุมอย่างรุนแรง ความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและอันตรายสูงกว่ามาก และอีกส่วนของโครงยางซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้นั่นมีโอกาสที่โครงยางจะหักได้จากการถูกกระแทกมาซึ่งถ้าแจ็คพอทก็อาจจะโชคร้ายยางบวมหรือระเบิดเสียหายได้ง่ายครับซึ่งเจอกันบ่อยๆ
3.ระยะเบรกไกลกว่า
ยางมีผลต่อประสิทธิภาพการหยุดรถโดยตรง ซึ่งยางพรีเมียมราคาสูงจะมีเนื้อยางที่เกาะถนนดีกว่า ส่งผลให้ระยะเบรกสั้นลงตามไปด้วย ซึ่งระยะเบรกที่ต่างกันเพียง 1 เมตร ก็อาจสร้างความเสียหายในยามคับขันได้มากมายมหาศาลแล้วแตกต่างกับยางเปอร์เซ็นต์ที่เนื้อยางแข็งความสามารถยึดเกาะถนนทำได้น้อยครับเปรียบเสมือนยางลบที่ไม่เหนียวถูกับกระดาษก็ไม่เหนียวติดกระดาษครับ
ทั้งนี้ ความลึกของดอกยางมีผลต่อระยะเบรกเช่นกัน ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงที่ใช้มานาน จะส่งผลให้ระยะเบรกยาวกว่ายางใหม่ ดังนั้นยางเปอร์เซ็นต์เราควรหมั่นตรวจสอบเป็นประจำและควรใช้ระยะสั้นเพราะยางใหม่ปัจจุบันราคาถูกมากครับ ส่วนยางคุณภาพ-ยางราคาประหยัด(ยางใหม่) ก็ควรเปลี่ยนยางทันทีเมื่อถึงเวลากำหนด (3 ปี - 5 ปีจากปีผลิตยาง หรือ 30,000 – 50,000 กิโลเมตร / พิจารณาตามการใช้งานส่วนบุคคล)
4.การเกาะถนนแย่กว่า
ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงมักมีประสิทธิภาพการเกาะถนนด้อยกว่ายางราคาแพง เนื่องมาจากคุณภาพเนื้อยางที่แตกต่างกัน ดังนั้น ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงอาจส่งผลให้เกิดการเสียหลักได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อเจอแอ่งน้ำหรือบนถนนเปียก เราอาจสังเกตประสิทธิภาพการเกาะถนนได้ง่ายๆ เช่น เวลาที่เลี้ยวรถ หรือวนขึ้นที่จอดรถ หากเป็นยางคุณภาพต่ำ มักมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดให้ได้ยินอยู่เสมอ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากกว่าเยอะเลยครับ
แต่อย่างไรก็ดี หากเพื่อนๆรับข้อด้อยเหล่านี้ได้ ยินดีจะรับความเสี่ยงการเลือกยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงก็ช่วยเซฟเงินได้โขทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง หรือจำเป็นต้องใช้จริงๆด้วยเหตุผลใดก็ตาม จอร์จ ขอแนะนำสิ่งสำคัญที่ควรทำดังนี้ คือ ควรสลับยางตามระยะเป็นประจำ, เติมลมยางให้เหมาะสม, หมั่นเช็กสภาพยางบ่อยๆ และ เปลี่ยนยางใหม่ทันทีเมื่อยางเดิมหมดสภาพ ก็จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยขึ้นครับ
ทางไทร์บิดเราการันตียางใหม่ปีล่าสุดเบิกตรงจากผู้ผลิตแท้ 100% ทุกเส้น บริการตั้งแต่ยางราคาประหยัด - ยางพรีเมียม พร้อมรองรับทุกระดับราคา เพื่อให้ทุกท่านได้ใช้ยางคุณภาพเพิ่มความปลอดภัยในชีวิต
หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยสะดวก Chat มาสอบถามที่ LINE Official : @tiresbid ได้เลยนะครับ (ฟรี ! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์) จอร์จและทีมงานมืออาชีพพร้อมแนะนำดูแลยางรถยนต์ ตอบทุกข้อสงสัย กันแบบส่วนตัว และติดตามโปรโมชั่นพิเศษบน Facebook : Tiresbidonline กด See First รับข้อมูลก่อนใคร จะได้ไม่พลาดสิทธิพิเศษมากมายทุกเดือน มั่นใจยางออนไลน์คุณภาพ & ไว้ใจบริการยางไทร์บิด แล้วพบกันใหม่ครับผม
2.ติดต่อไทร์บิด
- โทร : 090-986-8762 / 090-958-7416 - Line Official : @tiresbid │https://lin.ee/717tUdr
- Inbox : m.me/Tiresbidonline - เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันเสาร์ 08.30 - 17.30 น. (หยุดวันอาทิตย์)
- YouTube : http://bit.ly/TiresbidYoutube - Facebook Tiresbid Group : http://bit.do/TiresbidGroup
ช่วงนี้เพื่อนๆสอบถามกันเข้ามาหลายท่านนะครับ จอร์จ เลยนำมาทำเสนอเกร็ดความรู้สักหน่อย อย่างแรกเลยความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง คือ แนวคิดว่ายางรถยนต์แต่ละยี่ห้อเหมือนกันหมด เพราะยางแต่ละรุ่นจะมีหน้าตาเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วคุณสมบัติของมันอาจต่างไปอย่างสิ้นเชิงเลยครับ
สำหรับเจ้าของรถโดยทั่วไปนั้น เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง ก็มักเลือกยางที่มีราคาถูกกว่าตลาดไว้ก่อน มองหารุ่นที่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ขอเพียงแค่มีขนาดเท่ากับของเดิมเท่านั้น สภาพเป็นอย่างไรก็มองข้ามไป แต่ในความจริงแล้ว ยางแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกัน เพราะมันมีคุณสมบัติต่างกันออกไป ซึ่งเหล่านี้อาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ทั้งยางสภาพใหม่แต่ปีเก่า(มากกว่า 3 ปี), ยางตกปี, ยางมือสอง, ยางเปอร์เซ็นต์, ยางป้ายแดง แต่ที่มาที่ไปและการรับประกันเป็นอย่างไร หลายท่านไม่อาจทราบได้แน่ชัดเลยครับ
จอร์จไทร์บิด จึงขอชี้เป้า 4 ข้อเสียของยางเปอร์เซ็นต์ ยางป้ายแดง ยางมือสอง ฯลฯ แม้ว่าจะเป็นยางสภาพใหม่ก็ตาม แต่ควรจะพิจารณาจากข้อมูลนี้ให้ดีก่อนจะซื้อหรือเปลี่ยนยางใหม่ครับ (เปลี่ยนแต่ละทีก็ใช้ไปหลายปี) อยากจะเสริม คือ กลุ่มยางเหล่านี้มักจะพบได้ทั้งยางแบรนด์ดัง หรือ ยางอินโด และ ยางจีน ซึ่งยางจีนจะมีโอกาสเกิดความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก จากสูตรการผลิตยางจากโรงงานที่ไม่ได้ประสิทธิภาพทัดเทียมกับแบรนด์ยางชั้นนำลงทุนงานวิจัยการผลิตยางที่ดีกว่าได้มาตรฐานการรับรองที่สูงกว่าครับ
ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ เจ้าของรถมักสัมผัสได้ทันทีว่ารถเงียบขึ้น นุ่มนวลขึ้น เนื่องจากยางชุดเก่าถูกใช้จนแข็ง ซึ่งในช่วงแรก ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงหรือยางใหม่มักให้ความเงียบไม่ต่างกันมากนัก(กรณีในสภาพที่ดี) แต่เมื่อพ้น 1 หมื่นกิโลขึ้นไปหรือน้อยกว่านั้นยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงมักเริ่มส่งเสียงดังมากกว่า และจะได้ยินชัดเจนโดยเฉพาะรถญี่ปุ่นรุ่นเล็กที่มีวัสดุซับเสียงน้อยเป็นเพราะเนื้อยางที่เสื่อมสภาพแข็ง ซึ่งเพื่อนลองนึกสภาพดูว่ายางแข็งๆกระทบที่พื้นจะเสียงดังกันขนาดไหนครับ
แม้ว่ายางเปอร์เซ็นต์จะมีการสึกหรอน้อยกว่า ทำให้สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่าซึ่งเป็นสาเหตุที่เกิดจากยางที่เสื่อมสภาพและแข็งหรือเรียกว่ายางตายครับ ยางจะมีการสึกที่น้อยมากจนแทบไม่สึกเลยครับ ส่วนยางบางรุ่นอาจเกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อยางได้เร็ว ส่งผลให้เกิดการปริแตกของหน้ายางหรือแก้มยางแม้ว่าจะยังคงมีดอกเหลือก็ตาม ซึ่งรอยปริเหล่านี้จะทำให้โครงสร้างความแข็งแรงของยางลดลง อาจทำให้ยางแตกได้เมื่อขับตกหลุมอย่างรุนแรง ความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและอันตรายสูงกว่ามาก และอีกส่วนของโครงยางซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้นั่นมีโอกาสที่โครงยางจะหักได้จากการถูกกระแทกมาซึ่งถ้าแจ็คพอทก็อาจจะโชคร้ายยางบวมหรือระเบิดเสียหายได้ง่ายครับซึ่งเจอกันบ่อยๆ
ยางมีผลต่อประสิทธิภาพการหยุดรถโดยตรง ซึ่งยางพรีเมียมราคาสูงจะมีเนื้อยางที่เกาะถนนดีกว่า ส่งผลให้ระยะเบรกสั้นลงตามไปด้วย ซึ่งระยะเบรกที่ต่างกันเพียง 1 เมตร ก็อาจสร้างความเสียหายในยามคับขันได้มากมายมหาศาลแล้วแตกต่างกับยางเปอร์เซ็นต์ที่เนื้อยางแข็งความสามารถยึดเกาะถนนทำได้น้อยครับเปรียบเสมือนยางลบที่ไม่เหนียวถูกับกระดาษก็ไม่เหนียวติดกระดาษครับ
ทั้งนี้ ความลึกของดอกยางมีผลต่อระยะเบรกเช่นกัน ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงที่ใช้มานาน จะส่งผลให้ระยะเบรกยาวกว่ายางใหม่ ดังนั้นยางเปอร์เซ็นต์เราควรหมั่นตรวจสอบเป็นประจำและควรใช้ระยะสั้นเพราะยางใหม่ปัจจุบันราคาถูกมากครับ ส่วนยางคุณภาพ-ยางราคาประหยัด(ยางใหม่) ก็ควรเปลี่ยนยางทันทีเมื่อถึงเวลากำหนด (3 ปี - 5 ปีจากปีผลิตยาง หรือ 30,000 – 50,000 กิโลเมตร / พิจารณาตามการใช้งานส่วนบุคคล)
ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงมักมีประสิทธิภาพการเกาะถนนด้อยกว่ายางราคาแพง เนื่องมาจากคุณภาพเนื้อยางที่แตกต่างกัน ดังนั้น ยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงอาจส่งผลให้เกิดการเสียหลักได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อเจอแอ่งน้ำหรือบนถนนเปียก เราอาจสังเกตประสิทธิภาพการเกาะถนนได้ง่ายๆ เช่น เวลาที่เลี้ยวรถ หรือวนขึ้นที่จอดรถ หากเป็นยางคุณภาพต่ำ มักมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดให้ได้ยินอยู่เสมอ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากกว่าเยอะเลยครับ
แต่อย่างไรก็ดี หากเพื่อนๆรับข้อด้อยเหล่านี้ได้ ยินดีจะรับความเสี่ยงการเลือกยางเปอร์เซ็นต์ & ยางป้ายแดงก็ช่วยเซฟเงินได้โขทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง หรือจำเป็นต้องใช้จริงๆด้วยเหตุผลใดก็ตาม จอร์จ ขอแนะนำสิ่งสำคัญที่ควรทำดังนี้ คือ ควรสลับยางตามระยะเป็นประจำ, เติมลมยางให้เหมาะสม, หมั่นเช็กสภาพยางบ่อยๆ และ เปลี่ยนยางใหม่ทันทีเมื่อยางเดิมหมดสภาพ ก็จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยขึ้นครับ
ทางไทร์บิดเราการันตียางใหม่ปีล่าสุดเบิกตรงจากผู้ผลิตแท้ 100% ทุกเส้น บริการตั้งแต่ยางราคาประหยัด - ยางพรีเมียม พร้อมรองรับทุกระดับราคา เพื่อให้ทุกท่านได้ใช้ยางคุณภาพเพิ่มความปลอดภัยในชีวิต
หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยสะดวก Chat มาสอบถามที่ LINE Official : @tiresbid ได้เลยนะครับ (ฟรี ! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์) จอร์จและทีมงานมืออาชีพพร้อมแนะนำดูแลยางรถยนต์ ตอบทุกข้อสงสัย กันแบบส่วนตัว และติดตามโปรโมชั่นพิเศษบน Facebook : Tiresbidonline กด See First รับข้อมูลก่อนใคร จะได้ไม่พลาดสิทธิพิเศษมากมายทุกเดือน มั่นใจยางออนไลน์คุณภาพ & ไว้ใจบริการยางไทร์บิด แล้วพบกันใหม่ครับผม
2.ติดต่อไทร์บิด
- โทร : 090-986-8762 / 090-958-7416 - Line Official : @tiresbid │https://lin.ee/717tUdr
- Inbox : m.me/Tiresbidonline - เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันเสาร์ 08.30 - 17.30 น. (หยุดวันอาทิตย์)
- YouTube : http://bit.ly/TiresbidYoutube - Facebook Tiresbid Group : http://bit.do/TiresbidGroup