5 เคล็ดไม่ลับ! บรรทุกของในรถอย่างไร เดินทางมั่นใจตลอดเส้นทาง
อัพเดทเมื่อ Fri Jun 18 2021
สวัสดีครับชาว Tiresbid กลับมาพบกับสาระดีๆ ที่ทาง CARRO นำเสนอให้อ่านกันในเดือนมิถุนายน 2564 อีกเช่นเคย ในเดือนนี้ ศบค. และ กทม. เริ่มไฟเขียว ประกาศให้บางสถานประกอบการ สามารถกลับมาเปิดธุรกิจกันได้แล้ว รวมไปถึงโรงเรียนอีกหลายแห่ง เริ่มเปิดการเรียนการสอนในห้องเรียน ...
ซึ่งหลายคน จึงต้องกลับมาใช้รถยนต์อีกครั้งครับ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ หรือไกล หลายคนอาจจะเดินทางไปทำงาน ไปส่งลูก ไปธุระต่างจังหวัด หรืออาจต้องบรรทุกสัมภาระติดรถไปด้วย
MR.CARRO จะมาเล่าเคล็ดลับให้ฟัง ว่าบรรทุกของในรถอย่างไร เพื่อการเดินทางที่คุ้มค่าน้ำมันในเวลานี้ และมั่นใจตลอดเส้นทางครับ
1.เช็กยางกันก่อน
ก่อนจะออกรถ ตรวจสอบยางรถยนต์ ว่ามียางรั่วแตกตำหรือไม่ และลมยางดูก่อนว่า อยู่ในมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือเปล่า รวมไปถึงสังเกตเนื้อยาง ดอกยางด้วยมาอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้หรือเปล่า
ถ้าต้องการเติมลมยาง สามารถดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บริเวณด้านข้างประตูคนขับ หรือในคู่มือประจำรถ
2.กะน้ำหนักบรรทุกให้พอดี
ในปัจจุบันผู้คนนิยมใช้รถยนต์แบบ SUV, รถ Crossover หรือรถกระบะกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากให้ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน มีลูกหลายคน หรือพาพ่อแม่ไปไหน ขึ้นลงสบาย นั่งก็สบายกว่า แถมยังบรรทุกสัมภาระได้เป็นจำนวนมากด้วย
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า จะบรรทุกได้เยอะๆ แบบไม่อั้น ก่อนที่คุณจะขนของขึ้นรถ ลองดูจากคู่มือประจำรถว่า น้ำหนักด้านท้ายรถ สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ เพื่อให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนักมาก จากการแบกน้ำหนักผู้โดยสาร และน้ำหนักบรรทุกที่เกินมามากได้
3.กระจกมองหลังเห็นหน่อย
หลายคนชอบบรรทุกสัมภาระกันซะจนมิดด้านท้าย จนกระจกมองหลังมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากสัมภาระที่วางอยู่ ทางที่ดีวางของให้มีช่องมองเห็นด้านหลังหน่อยก็ดี เวลาขับรถ จะเลี้ยว จะแซง จะเปลี่ยนเลน หรือถอย จะได้ง่ายขึ้น
4.ของหนักไว้ล่างเท่านั้น
เพื่อรักษาจุดศูนย์ถ่วงของรถ ควรวางของหนักไว้ที่พื้นรถเสมอ และกระจายน้ำหนักให้ทั่วถึงกัน เพื่อให้รถทรงตัวได้ปกติ ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือล้อหน้าลอย พร้อมกับมัดสัมภาระให้เรียบร้อย ไม่กลิ้งหล่นเวลาเลี้ยว
5.วางของบนหลังคา ต้องระวัง!
ก่อนจะวางของไว้บนหลังคารถ ต้องมั่นใจว่าเราผูกมัดสิ่งของแน่นหนาไว้กับแร็คหลังคาแล้ว เนื่องจากเวลารถวิ่ง สิ่งของจะต้านลม อาจทำให้ของร่วงหล่นระหว่างทาง เป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมทางได้
ส่วนช่วงนี้ ใครที่ต้องการขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงโควิด-19 เราขอแนะนำ CARRO Express (คาร์โร เอ็กซ์เพรส) นั่นเอง แค่กรอกรายละเอียดรุ่นรถ ปี เลขไมล์ ราคาที่คุณต้องการ และรูปรถของคุณ ก็สามารถขายรถออนไลน์ได้แล้ว ง่ายนิดเดียว
หากเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา คุณ OK ตกลงพร้อมขาย ก็สามารถปิดการขาย ทำสัญญาซื้อขายรถ รับเงินสดกลับได้เลย ภายใน 24 ชั่วโมง!
หากใครยังมีข้อสงสัย จะ Add Line มาขอรายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้ ที่ @Carrothai ครับ
และใครกำลังมองหารถยนต์มือสอง เพื่อหลีกเลี่ยงโควิด-19 จากการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มาที่นี่เลย! “CARRO Automall” (คาร์โร ออโต้มอลล์) เรามีรถคุณภาพเยี่ยมรอให้คุณเลือกเป็นเจ้าของอยู่มากมาย ใครสนใจ สามารถ Add Line มาขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ @carroautomall
ซึ่งหลายคน จึงต้องกลับมาใช้รถยนต์อีกครั้งครับ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้ หรือไกล หลายคนอาจจะเดินทางไปทำงาน ไปส่งลูก ไปธุระต่างจังหวัด หรืออาจต้องบรรทุกสัมภาระติดรถไปด้วย
MR.CARRO จะมาเล่าเคล็ดลับให้ฟัง ว่าบรรทุกของในรถอย่างไร เพื่อการเดินทางที่คุ้มค่าน้ำมันในเวลานี้ และมั่นใจตลอดเส้นทางครับ
1.เช็กยางกันก่อน
ก่อนจะออกรถ ตรวจสอบยางรถยนต์ ว่ามียางรั่วแตกตำหรือไม่ และลมยางดูก่อนว่า อยู่ในมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือเปล่า รวมไปถึงสังเกตเนื้อยาง ดอกยางด้วยมาอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้หรือเปล่า
ถ้าต้องการเติมลมยาง สามารถดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บริเวณด้านข้างประตูคนขับ หรือในคู่มือประจำรถ
2.กะน้ำหนักบรรทุกให้พอดี
ในปัจจุบันผู้คนนิยมใช้รถยนต์แบบ SUV, รถ Crossover หรือรถกระบะกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากให้ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน มีลูกหลายคน หรือพาพ่อแม่ไปไหน ขึ้นลงสบาย นั่งก็สบายกว่า แถมยังบรรทุกสัมภาระได้เป็นจำนวนมากด้วย
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า จะบรรทุกได้เยอะๆ แบบไม่อั้น ก่อนที่คุณจะขนของขึ้นรถ ลองดูจากคู่มือประจำรถว่า น้ำหนักด้านท้ายรถ สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดเท่าไหร่ เพื่อให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนักมาก จากการแบกน้ำหนักผู้โดยสาร และน้ำหนักบรรทุกที่เกินมามากได้
3.กระจกมองหลังเห็นหน่อย
หลายคนชอบบรรทุกสัมภาระกันซะจนมิดด้านท้าย จนกระจกมองหลังมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากสัมภาระที่วางอยู่ ทางที่ดีวางของให้มีช่องมองเห็นด้านหลังหน่อยก็ดี เวลาขับรถ จะเลี้ยว จะแซง จะเปลี่ยนเลน หรือถอย จะได้ง่ายขึ้น
4.ของหนักไว้ล่างเท่านั้น
เพื่อรักษาจุดศูนย์ถ่วงของรถ ควรวางของหนักไว้ที่พื้นรถเสมอ และกระจายน้ำหนักให้ทั่วถึงกัน เพื่อให้รถทรงตัวได้ปกติ ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือล้อหน้าลอย พร้อมกับมัดสัมภาระให้เรียบร้อย ไม่กลิ้งหล่นเวลาเลี้ยว
5.วางของบนหลังคา ต้องระวัง!
ก่อนจะวางของไว้บนหลังคารถ ต้องมั่นใจว่าเราผูกมัดสิ่งของแน่นหนาไว้กับแร็คหลังคาแล้ว เนื่องจากเวลารถวิ่ง สิ่งของจะต้านลม อาจทำให้ของร่วงหล่นระหว่างทาง เป็นอันตรายต่อเพื่อนร่วมทางได้
ส่วนช่วงนี้ ใครที่ต้องการขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงโควิด-19 เราขอแนะนำ CARRO Express (คาร์โร เอ็กซ์เพรส) นั่นเอง แค่กรอกรายละเอียดรุ่นรถ ปี เลขไมล์ ราคาที่คุณต้องการ และรูปรถของคุณ ก็สามารถขายรถออนไลน์ได้แล้ว ง่ายนิดเดียว
หากเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา คุณ OK ตกลงพร้อมขาย ก็สามารถปิดการขาย ทำสัญญาซื้อขายรถ รับเงินสดกลับได้เลย ภายใน 24 ชั่วโมง!
หากใครยังมีข้อสงสัย จะ Add Line มาขอรายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้ ที่ @Carrothai ครับ
และใครกำลังมองหารถยนต์มือสอง เพื่อหลีกเลี่ยงโควิด-19 จากการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มาที่นี่เลย! “CARRO Automall” (คาร์โร ออโต้มอลล์) เรามีรถคุณภาพเยี่ยมรอให้คุณเลือกเป็นเจ้าของอยู่มากมาย ใครสนใจ สามารถ Add Line มาขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ @carroautomall