ขับรถหน้าฝน ขับอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ
อัพเดทเมื่อ Mon Jun 28 2021
ช่วงนี้เข้าสู่หน้าฝนแล้ว ใครที่ขับรถเดินทางไปไหนมาไหนก็ขอให้ขับรถกันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ วันนี้ masii เลยขอนำเทคนิคเคล็ดลับดีๆ ในการขับรถช่วงหน้าฝน ให้ปลอดภัยมาฝากกัน ไปดูกันสิว่ามีอะไรบ้าง
ขับรถหน้าฝน ขับอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ
เพราะช่วงเวลาที่ฝนตก เป็นช่วงที่ถนนลื่น เสี่ยงต่อการที่รถจะไถลเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้ ทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น ซึ่งการขับรถลุยฝนไปนั้น มีเทคนิคที่เพื่อนๆ สามารถนำไปทำตามกันได้ง่ายๆ ดังนี้
1. เปิดที่ปัดน้ำฝนให้แรงพอดี
อุปกรณ์สำคัญที่ทำให้เราสามารถขับรถลุยฝนได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย นั่นก็คือ ที่ปัดน้ำฝน ซึ่งเราควรเลือกเปิดที่ปัดน้ำฝนในระดับความแรงที่พอดีกับสายฝนที่ตกลงมา และอาจกดที่ฉีดปัดน้ำฝนไปด้วย หากพบว่ากระจกมีคราบเปื้อน หรือมีสิ่งสกปรกติดอยู่บนกระจกรถ นอกจากนี้ควรหมั่นเช็กสภาพยางปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2. เปิดไฟหน้ารถให้สว่าง
หากช่วงฝนตก ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับตอนกลางคืนละก็ แนะนำให้เปิดไฟหน้ารถไว้เลยค่ะ นอกจากจะช่วยให้เรามองเห็นถนนชัดเจนแล้ว ยังทำให้รถคันอื่นมองเห็นเราชัดอีกด้วย หากฝนตกหนักและมีหมอกลงหนา ก็สามารถเปิดไฟตัดหมอกร่วมด้วยได้ แต่ก็ระมัดระวังอย่าเปิดไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสน และเป็นอันตรายได้
3. ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม
เพราะถนนที่เปียกลื่น เราจึงควรขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม คือประมาณ 60 กม./ชม. และไม่ควรขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ทั้งนี้การขับรถเร็วขณะฝนตกอาจทำให้รถยนต์เหินน้ำได้ เพราะขณะที่ขับรถบนแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนพื้นถนน หากมาด้วยความเร็วสูง จะทำให้ยางรถยนต์ไม่สามารถรีดน้ำออกจากทาง และสูญเสียความสามารถในการเกาะพื้นถนนได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ และไม่ควรขับรถเร็วเกินไป
4. ไม่ขับชิดคันหน้าจนเกินไป
ควรเว้นระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า ไม่ขับชิดกันจนเกินไป เพราะหากรถคันหน้าเบรกกะทันหัน อาจทำให้เราเบรกไม่ทันและชนท้ายได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการแซงในระยะกระชั้นชิด เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
5. อย่าเบรกรถกะทันหัน
เพราะในช่วงฝนตก ทำให้พื้นถนนลื่นกว่าปกติ จึงควรเพิ่มระยะเบรกมากกว่าเดิม เผื่อกรณีที่รถลื่นไถล และไม่ควรเบรกรถอย่างกะทันหัน เพราะจะทำให้รถปัด รถหมุน และเสียหลัก หรือรถอาจคว่ำได้ จึงควรค่อยๆ ชะลอความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ และค่อยๆ เหยียบเบรกจะดีที่สุด
6. ถ้าฝนตกหนักมาก ควรหาที่จอดพัก
หากฝนตกหนักมากๆ จนมองไม่เห็นทาง แนะนำว่าควรหาที่จอดพักรถสักครู่ เช่น จอดข้างทางที่ห่างจากเสาไฟฟ้าแรงสูง หรือ จอดพักในปั๊มน้ำมัน เพื่อรอให้ฝนซา หรือหยุดตกเสียก่อนจึงค่อยขับต่อ และควรขับรถปลอดภัย เพราะถึงฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ถนนก็ยังเปียกลื่นอยู่นะ
7. หากต้องลุยน้ำท่วม ให้ปิดแอร์ ใช้เกียร์ต่ำ
ในกรณีที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วม ไม่ควรขับรถเร็ว เพราะจะทำให้น้ำกระเด็นไปโดนรถคันอื่นหรือผู้คนที่สัญจรอยู่ข้างทางได้ ที่สำคัญควรปิดแอร์ เพื่อป้องกันพัดลมพัดน้ำเข้ามาในห้องเครื่องยนต์ได้ และควรใช้เกียร์ต่ำ หรือใช้ความเร็วต่ำ ค่อยๆ ขับรถลุยผ่านน้ำท่วมไป
และนี่ก็คือ เทคนิคเคล็ดลับในการขับรถในช่วงหน้าฝน ขับอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ที่มาสินำมาฝากกัน และหากใครที่ต้องการซื้อประกันรถยนต์กับมาสิ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อซื้อประกันรถยนต์ หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
ขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.co.th
ขับรถหน้าฝน ขับอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ
เพราะช่วงเวลาที่ฝนตก เป็นช่วงที่ถนนลื่น เสี่ยงต่อการที่รถจะไถลเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุได้ ทำให้เราต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้น ซึ่งการขับรถลุยฝนไปนั้น มีเทคนิคที่เพื่อนๆ สามารถนำไปทำตามกันได้ง่ายๆ ดังนี้
1. เปิดที่ปัดน้ำฝนให้แรงพอดี
อุปกรณ์สำคัญที่ทำให้เราสามารถขับรถลุยฝนได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย นั่นก็คือ ที่ปัดน้ำฝน ซึ่งเราควรเลือกเปิดที่ปัดน้ำฝนในระดับความแรงที่พอดีกับสายฝนที่ตกลงมา และอาจกดที่ฉีดปัดน้ำฝนไปด้วย หากพบว่ากระจกมีคราบเปื้อน หรือมีสิ่งสกปรกติดอยู่บนกระจกรถ นอกจากนี้ควรหมั่นเช็กสภาพยางปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2. เปิดไฟหน้ารถให้สว่าง
หากช่วงฝนตก ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับตอนกลางคืนละก็ แนะนำให้เปิดไฟหน้ารถไว้เลยค่ะ นอกจากจะช่วยให้เรามองเห็นถนนชัดเจนแล้ว ยังทำให้รถคันอื่นมองเห็นเราชัดอีกด้วย หากฝนตกหนักและมีหมอกลงหนา ก็สามารถเปิดไฟตัดหมอกร่วมด้วยได้ แต่ก็ระมัดระวังอย่าเปิดไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสน และเป็นอันตรายได้
3. ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม
เพราะถนนที่เปียกลื่น เราจึงควรขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม คือประมาณ 60 กม./ชม. และไม่ควรขับรถเกินความเร็วที่กำหนด ทั้งนี้การขับรถเร็วขณะฝนตกอาจทำให้รถยนต์เหินน้ำได้ เพราะขณะที่ขับรถบนแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนพื้นถนน หากมาด้วยความเร็วสูง จะทำให้ยางรถยนต์ไม่สามารถรีดน้ำออกจากทาง และสูญเสียความสามารถในการเกาะพื้นถนนได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ และไม่ควรขับรถเร็วเกินไป
4. ไม่ขับชิดคันหน้าจนเกินไป
ควรเว้นระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า ไม่ขับชิดกันจนเกินไป เพราะหากรถคันหน้าเบรกกะทันหัน อาจทำให้เราเบรกไม่ทันและชนท้ายได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการแซงในระยะกระชั้นชิด เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
5. อย่าเบรกรถกะทันหัน
เพราะในช่วงฝนตก ทำให้พื้นถนนลื่นกว่าปกติ จึงควรเพิ่มระยะเบรกมากกว่าเดิม เผื่อกรณีที่รถลื่นไถล และไม่ควรเบรกรถอย่างกะทันหัน เพราะจะทำให้รถปัด รถหมุน และเสียหลัก หรือรถอาจคว่ำได้ จึงควรค่อยๆ ชะลอความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ และค่อยๆ เหยียบเบรกจะดีที่สุด
6. ถ้าฝนตกหนักมาก ควรหาที่จอดพัก
หากฝนตกหนักมากๆ จนมองไม่เห็นทาง แนะนำว่าควรหาที่จอดพักรถสักครู่ เช่น จอดข้างทางที่ห่างจากเสาไฟฟ้าแรงสูง หรือ จอดพักในปั๊มน้ำมัน เพื่อรอให้ฝนซา หรือหยุดตกเสียก่อนจึงค่อยขับต่อ และควรขับรถปลอดภัย เพราะถึงฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ถนนก็ยังเปียกลื่นอยู่นะ
7. หากต้องลุยน้ำท่วม ให้ปิดแอร์ ใช้เกียร์ต่ำ
ในกรณีที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วม ไม่ควรขับรถเร็ว เพราะจะทำให้น้ำกระเด็นไปโดนรถคันอื่นหรือผู้คนที่สัญจรอยู่ข้างทางได้ ที่สำคัญควรปิดแอร์ เพื่อป้องกันพัดลมพัดน้ำเข้ามาในห้องเครื่องยนต์ได้ และควรใช้เกียร์ต่ำ หรือใช้ความเร็วต่ำ ค่อยๆ ขับรถลุยผ่านน้ำท่วมไป
และนี่ก็คือ เทคนิคเคล็ดลับในการขับรถในช่วงหน้าฝน ขับอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ที่มาสินำมาฝากกัน และหากใครที่ต้องการซื้อประกันรถยนต์กับมาสิ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อซื้อประกันรถยนต์ หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
ขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.co.th