รีวิวยาง Michelin Energy XM2 Plus VS Bridgestone Ecopia EP300 By Tiresbid

อัพเดทเมื่อ Tue Dec 07 2021

https://tiresbid-images.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/2021-12-07/163352-1638869632-Michelin-Energy-XM2-Plus-VS-Bridgestone-Ecopia-EP300--27.12.2021-cover-715x380.webp
ยางมิชลิน เอนเนอจีย์ เอ็กซ์เอ็มทู พลัส (Energy XM2 Plus)
เกรด : ยางพรีเมียม / สไตล์ : ประหยัดน้ำมัน
ยางบริดจสโตน อีโคเปีย อีพีสามศูนย์ศูนย์ (Bridgestone Ecopia EP300)
เกรด : ยางพรีเมียม / สไตล์ : ประหยัดน้ำมัน


 
1.จุดเด่น & เทคโนโลยี
1.) Michelin Energy XM2 Plus (รองรับขอบ 14 - 16 นิ้ว)
     เทคโนโลยี Full-silica compound เป็นเทคโนโลยีช่วยในการยึดเกาะถนน ด้วยพันธะโมเลกุลแข็งแรง ช่วยเสริมหน้ายางสามารถสัมผัสกับพื้นถนนได้แนบสนิทมากยิ่งขึ้นทำให้ยางใหม่ ระยะเบรกสั้นกว่าค่าเฉลี่ย 1.5 เมตร เมื่อยางใกล้หมดดอก ระยะเบรกสั้นถึง 2.6 เมตรและ ยังช่วยทำให้เนื้อยางมีความทนทานเพิ่มมากขึ้นทำให้อายุการใช้งานของยาง Michelin XM2+ ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

            เทคโนโลยี Alternating Bridging เป็นเทคโนโลยีช่วยยางนุ่มนวลนุ่มเงียบ ออกแบบดูดซับแรงกระแทก สั่นสะเทือนบนลวดลายดอกยาง และช่วยลดการล้มตัวของบล็อกดอกยาง จึงทำให้ยางสึกเรียบและอายุยาวนาน


 
            เทคโนโลยี Optimum Void Ratio Proven Hydroplaning Reduction เป็นเทคโนโลยีช่วยระยะเบรกสั้นลง ร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ตามแนวทิศทางการวิ่งและแนวขวาง ออกแบบบนลายดอกยางส่วนช่วยลดเสียงรบกวน

            เทคโนโลยี Green X เป็นเทคโนโลยีช่วยเสริมประสิทธิภาพประหยัดน้ำมัน สัญลักษณ์บวก (+) เหนือกว่ายางรุ่นก่อน Energy XM2 พร้อมผสมผสานความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานกว่ายางทั่วไป 25%
 
2.) Bridgestone Ecopia EP300 (รองรับขอบ 15 - 17 นิ้ว)
     เทคโนโลยี Nano Pro-Tech เป็นเทคโนโลยีช่วยภาพรวมยาง โครงสร้างเนื้อยางในระดับโมเลกุล ลดความร้อนที่เกิดขึ้น ด้วยเทคโนโลยีช่วยให้ซิลิก้าจับตัวและจัดเรียงตัวได้ดีขึ้นประหยัดน้ำมันขึ้น 11 กิโลเมตร / ถัง 70 ลิตร และเพิ่มประสิทธิภาพยืดอายุใช้งานถึง 41% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน Ecopia EP200

     เทคโนโลยี Eco Friendly Shape เป็นเทคโนโลยีช่วยเสริมภาพรวมยาง ออกแบบรูปทรงยางพิเศษ ลดแรงต้านทานการหมุน ยืดอายุการใช้งานนานยิ่งขึ้น และรักษารูปทรงและลาดอาการสึกหรอผิดปกติ

     เทคโนโลยี New Top Compound เป็นเทคโนโลยีช่วยในการยึดเกาะถนน เนื้อยางสูตรซิลิก้าและสารประกอบคู่ควบที่ช่วยลดแรงต้านทานการหมุนและทำให้ประหยัดน้ำมันและยืดอายุการใช้งาน


 
     เทคโนโลยี Optimized Crown Shape เป็นเทคโนโลยีช่วยเสริมการยึดเกาะถนน ออกแบบดอกยางให้กระจายแรงกดอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกาะถนนและเสริมลดแรงต้านหมุนน้อยลง ยืดอายุการใช้งาน

     เทคโนโลยี Chamfering Shape เป็นเทคโนโลยีช่วยในระยะเบรกสั้นลง ออกแบบปลายดอกยางบริเวณไหล่บล็อกดอกยางพิเศษ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสบนถนนช่วยกระจายแรงเบรกสม่ำเสมอ สร้างความมั่นใจทั้งถนนแห้งและเปียกพร้อมให้ความปลอดภัย เบรกได้สั้นลงถึง 1.27 เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน EP200
เทคโนโลยี Round Rib Edge เป็นเทคโนโลยีช่วยเสริมระยะเบรกสั้นลง ออกแบบร่องดอกยาง ช่วยลดอาการบิดตัวของดอกยางทำให้การเปลี่ยนทิศทาง และเพิ่มความลึกไหลายางมากขึ้น ทำให้เบรกสั้นมั่นใจ และเสริมยืดอายุการใช้งานให้นานกว่าเดิม


 
2.คอมเมนต์ By Tiresbid
จอร์จ อยากแนะนำ คือ เริ่มกันที่ Michelin Energy XM2 Plus เทคโนโลยี Alternating Bridging ออกแบบดูดซับแรงกระแทก ช่วยทั้งลดการสึกหรอไม่เรียบและป้องกันล้มตัวบล็อกดอกยาง ทำให้ยืดอายุใช้งานที่สำคัญประหยัดน้ำมัน ผสานความปลอดภัยกว่า 25% เทียบกับรุ่นก่อน XM2 ส่วน Bridgestone Ecopia EP300 เทคโนโลยี Chamfering Shape ออกแบบดอกยางไหล่บล็อกดอกยาพิเศษ ช่วยกระจายแรงเบรกสม่ำเสมอ มีส่วนช่วยเกาะถนนแห้งและเปียก เสริมความปลอดภัย เบรกสั้นลงถึง 1.27 เมตร เทียบรุ่นก่อน หากเพื่อนๆตัดสินไม่ถูก อยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ช่วยแนะนำเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งาน ติดต่อจอร์จไทร์บิดได้เลยครับ

3.ติดต่อไทร์บิด
- โทร : 090-986-8762 / 090-958-7416       - Line Official : @tiresbid │https://lin.ee/717tUdr
- Inbox : m.me/Tiresbidonline        - เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันเสาร์ 08.30 - 17.30 น. (หยุดวันอาทิตย์)
- YouTube : http://bit.ly/TiresbidYoutube    - Facebook Tiresbid Group : http://bit.do/TiresbidGroup