ใครที่เพิ่งถอยรถป้ายแดงมาใหม่ๆ ก่อนอื่นเราต้องศึกษากฏหมายการใช้รถป้ายแดงให้ดี เพราะว่ากรมขนส่งทางบกย้ำเรื่องการใช้ป้ายแดงจะต้องใช้ควบคู่กับสมุดคู่มือประจำรถ และใช้ชั่วคราวได้ไม่เกินวันที่กำหนด ไม่ว่าจะขับรถช่วงกลางวันหรือกลางคืนหากเราฝ่าฝืนข้อบังคับจะมีทั้งโทษจำและโทษปรับ
กฎหมายรถป้ายแดงใช้งานไม่เกินกี่วัน
รถป้ายแดง ถือเป็นรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนอย่างสมบูรณ์ มีระยะเวลาอนุญาตให้ใช้ป้ายแดงชั่วคราวได้สูงสุด 30 วันนับตั้งแต่วันที่รับรถออกมาใช้งาน หากเจ้าของรถฝ่าฝืนถือมีความผิดฐานใช้รถโดยไม่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท รวมถึงห้ามใช้งานเป็นระยะทางเกินกว่า 3,000 กิโลเมตรด้วย
สาเหตุห้ามใช้รถป้ายแดงตอนกลางคืน
กฎหมายรถป้ายแดง สามารถขับได้เฉพาะช่วงเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก หรือเวลา 06.00 – 18.00 น.เท่านั้น แต่บางครั้งสามารถอนุโลมวิ่งได้ไม่เกิน 20.00 น. โดยสาเหตุที่รถป้ายแดงห้ามขับตอนกลางคืน ดังนี้
1. ป้ายแดงอ่านได้ยากตอนกลางคืน
เพราะป้ายแดงเป็นสีเข้ม ขณะที่ขับรถตอนกลางคืนจึงสังเกตได้ยากกว่าป้ายสีขาว เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้การติดตามหารถคันป้ายแดงยุ่งยากด้วย
2. ป้ายแดงเสี่ยงถูกโจรกรรมได้ง่าย
อย่างที่รู้กันดีว่า รถป้ายแดงเป็นรถใหม่ ราคาแพง เป็นที่ล่อตาล่อใจโจร โดยเฉพาะรถคันไหนที่จอดทิ้งไว้ที่เปลี่ยวๆ ยิ่งเสี่ยงถูกโจรกรรมรถได้ง่าย
3. เสี่ยงต่อการนำรถไปใช้ผิดกฎหมาย
เนื่องจากการใช้รถป้ายแดง เสี่ยงถูกนำรถไปสวมทะเบียนได้ง่าย ซึ่งเข้าข่ายผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมตามกฎหมายอาญา มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท เหตุนี้กฎหมายจึงกำหนดใช้รถป้ายแดงตอนกลางวันเพื่อลดปัญหาเหล่านี้
ปัจจุบันนี้ป้ายทะเบียนรถสีแดง จำเป็นต้องเข้มงวดมากขึ้น เพราะบางคนก็แอบใช้ป้ายแดงเกินเวลาที่กำหนด บ้างก็ขับรถป้ายแดงตอนกลางคืน เสี่ยงทั้งโดนจำและปรับตามกฎหมายแน่นอน ดังนั้นเราเคารพกฎข้อบังคับในการใช้รถป้ายแดง หรือหากมีความจำเป็นที่จำต้องขับรถป้ายแดงตอนกลางคืน ก็ต้องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่และนายทะเบียนก่อนทุกครั้ง โดยให้นายทะเบียนเซ็นรับรองจากนั้นนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอตรวจค้นตามด่าน เป็นหลักฐานสำคัญควรติดรถไปด้วยทุกครั้ง
อุ่นใจกว่าถ้า
ซื้อประกันรถยนต์ คุ้มครองรถของคุณและคู่กรณีขณะขับขี่ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมจากพ.ร.บ. ไม่ว่าจะตัวผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารบนรถ เดินทางไกลแค่ไหนก็หมดห่วง