เคล็ดไม่ลับ! ปรับกระจกรถยนต์อย่างไรให้ขับขี่ปลอดภัย
อัพเดทเมื่อ Tue Oct 11 2022
คุณเชื่อหรือไม่? เรื่องเล็ก ๆ อย่างการปรับกระจกรถยนต์ช่วยลดอุบัติเหตุได้ เพราะกระจกที่ติดตั้งไว้สำหรับมองทัศนียภาพด้านข้างและด้านหลัง มีส่วนอย่างมากต่อการตัดสินใจเปลี่ยนเลน เลี้ยวซ้าย - เลี้ยวขวา หรือการเว้นระยะห่างกับรถยนต์คันอื่น ๆ ในบทความนี้ Drive Car Rental ขอแชร์เทคนิคการปรับกระจก 3 ตำแหน่งที่สำคัญในรถยนต์ ลองอ่านแล้วนำไปปรับใช้กันดูนะครับ
1. การปรับกระจกมองข้าง (คนขับ)
การปรับกระจกมองข้างฝั่งคนขับ ควรกางกระจกให้ห่างจากตัวรถจนทำมุม 90 องศา เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างให้กว้างขึ้น มองเห็นรถคันอื่น ๆ บนท้องถนนได้มากขึ้น โดยเฉพาะรถที่กำลังแล่นมาทางด้านหลังด้วยความเร็วสูง การปรับกระจกมองข้างเช่นนี้จะทำให้คนขับสามารถเห็นและหลบหลีกได้ทันเวลา นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณจำเป็นต้องขับรถช่วงกลางคืน การกางกระจกออกจนตั้งฉากกับตัวรถจะช่วยลดแสงไฟจากรถคันอื่น ที่อาจสะท้อนเข้าสู่ดวงตาของคุณ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
2. การปรับกระจกมองข้าง (ผู้โดยสาร)
การปรับกระจกมองข้างฝั่งผู้โดยสารก็สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้กางกระจกออกจนตั้งฉากกับตัวรถเช่นเดียวกับฝั่งคนขับ เนื่องจากบางครั้งผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้าก็จำเป็นต้องช่วยคนขับสังเกตรถบนท้องถนนด้วย อย่างไรก็ดี กระจกมองข้างทั้งสองฝั่งล้วนช่วยอำนวยความสะดวกให้คนขับในการมองรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวา จึงควรปรับเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารไม่ให้ล้ำหน้าจนบังกระจกมองข้าง เพื่อให้คนขับมองทางได้อย่างสมบูรณ์
3. การปรับกระจกมองหลัง
วิธีปรับกระจกมองหลังที่ถูกต้อง คือการปรับให้คนขับสามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านหลังได้กว้างที่สุด แนะนำให้ปรับกระจกเยื้องออกไปทางซ้ายเล็กน้อย และปรับกระจกให้หันขึ้นจนไม่เห็นศีรษะของคนขับ วิธีนี้จะทำให้คนขับซึ่งนั่งอยู่ฝั่งขวาสามารถมองเห็นได้กว้างขึ้น และไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับไปมองทาง ซึ่งอาจทำให้กะระยะด้านหน้าผิด จนชนกับรถคันอื่นได้
การปรับกระจกรถยนต์ให้เหมาะสมจะช่วยลดจุดบอดในการมองของคนขับ เพิ่มความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนน และทำให้การสัญจรปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้รถเป็นประจำ เราขอแนะนำบริการรถเช่ารายวันและรถเช่ารายเดือนจาก Drive Car Rental มั่นใจตรวจเช็กสภาพสม่ำเสมอ การันตีคุณภาพด้วยรถใหม่อายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี พร้อมบริการดูแลผู้เช่าตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก
Thairath, Roojai, Grandpix
1. การปรับกระจกมองข้าง (คนขับ)
การปรับกระจกมองข้างฝั่งคนขับ ควรกางกระจกให้ห่างจากตัวรถจนทำมุม 90 องศา เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างให้กว้างขึ้น มองเห็นรถคันอื่น ๆ บนท้องถนนได้มากขึ้น โดยเฉพาะรถที่กำลังแล่นมาทางด้านหลังด้วยความเร็วสูง การปรับกระจกมองข้างเช่นนี้จะทำให้คนขับสามารถเห็นและหลบหลีกได้ทันเวลา นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณจำเป็นต้องขับรถช่วงกลางคืน การกางกระจกออกจนตั้งฉากกับตัวรถจะช่วยลดแสงไฟจากรถคันอื่น ที่อาจสะท้อนเข้าสู่ดวงตาของคุณ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
2. การปรับกระจกมองข้าง (ผู้โดยสาร)
การปรับกระจกมองข้างฝั่งผู้โดยสารก็สำคัญไม่แพ้กัน แนะนำให้กางกระจกออกจนตั้งฉากกับตัวรถเช่นเดียวกับฝั่งคนขับ เนื่องจากบางครั้งผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้าก็จำเป็นต้องช่วยคนขับสังเกตรถบนท้องถนนด้วย อย่างไรก็ดี กระจกมองข้างทั้งสองฝั่งล้วนช่วยอำนวยความสะดวกให้คนขับในการมองรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวา จึงควรปรับเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารไม่ให้ล้ำหน้าจนบังกระจกมองข้าง เพื่อให้คนขับมองทางได้อย่างสมบูรณ์
3. การปรับกระจกมองหลัง
วิธีปรับกระจกมองหลังที่ถูกต้อง คือการปรับให้คนขับสามารถมองเห็นทัศนียภาพด้านหลังได้กว้างที่สุด แนะนำให้ปรับกระจกเยื้องออกไปทางซ้ายเล็กน้อย และปรับกระจกให้หันขึ้นจนไม่เห็นศีรษะของคนขับ วิธีนี้จะทำให้คนขับซึ่งนั่งอยู่ฝั่งขวาสามารถมองเห็นได้กว้างขึ้น และไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับไปมองทาง ซึ่งอาจทำให้กะระยะด้านหน้าผิด จนชนกับรถคันอื่นได้
การปรับกระจกรถยนต์ให้เหมาะสมจะช่วยลดจุดบอดในการมองของคนขับ เพิ่มความมั่นใจในการใช้รถใช้ถนน และทำให้การสัญจรปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้รถเป็นประจำ เราขอแนะนำบริการรถเช่ารายวันและรถเช่ารายเดือนจาก Drive Car Rental มั่นใจตรวจเช็กสภาพสม่ำเสมอ การันตีคุณภาพด้วยรถใหม่อายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี พร้อมบริการดูแลผู้เช่าตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก
Thairath, Roojai, Grandpix