รถยนต์ไฟฟ้า EV ลุยน้ำท่วมได้ไหม ?
อัพเดทเมื่อ Wed May 29 2024
รถยนต์ไฟฟ้า EV ลุยน้ำท่วมได้ไหม ?
เตรียมเข้าฝน! คนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาจกังวลใจว่า กรณีฝนตกหนักๆ สามารถขับรถไฟฟ้าลุยน้ำท่วมได้ไหม เนื่องจากระบบการทำงานเป็นไฟฟ้า 100% กลัวว่าจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย เป็นอันตรายหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ขับรถยนต์ไฟฟ้า ลุยน้ำท่วมได้ไหม?
คำตอบคือ รถยนต์ไฟฟ้า หรือเรียกกันว่า รถ EV สามารถขับลุยฝนได้ตามปกติ ในกรณีที่น้ำท่วม สามารถขับได้ แต่ไม่ควรเกินครึ่งล้อรถ (40 เซ็นติเมตร) และไม่ควรแช่น้ำนานๆ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที โดยต้องขับไปอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดมะวัง
รถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน ต้องได้รับการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) คือ ค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าไปในแบตเตอรี่ ผ่านการทดสอบหลายขั้นตอน นอกจากนี้ยังทดสอบว่า อุปกรณ์ต่างๆ มีการหุ้มฉนวนดีหรือไม่ ออกเป็นค่า IP โดยค่ามาตรฐานในการป้องกันตัวรถไม่ต่ำกว่า IP67 เปรียบเสมือนตัวการันตีว่า สามารถขับลุยน้ำท่วมลึกไม่เกิน 1 เมตร ได้ไม่เกิน 30 นาที
ทำไมถึงไม่ควรขับรถไฟฟ้าลุยน้ำเกิน 30 นาที?
ถึงแม้รถไฟฟ้า EV สามารถลุยน้ำท่วมได้ประมาณ 30 นาที แต่ถ้าคุณขับรถลุยน้ำเกินกว่านั้น อาจมีโอกาสที่น้ำเข้าไปในระบบแบตเตอรี ทำให้แบตเตอรีช็อต เสียหาย หากเเบตรถเสียหายขึ้นมาจะทำให้เครื่องยนต์ดับลง สตาร์ทรถไม่ติด และคุณควรประเมินสถานการ์ให้รอบคอบ ถ้าเห็นว่าระดับน้ำท่วมสูง มีโอกาสเสี่ยงก็อย่าฝืนขับต่อ มิเช่นนั้นหกรถเสียขึ้นมา ต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ บางทีเปลี่ยนยกชุดเลย กันไว้ก่อนดีกว่าแก้
ขับรถไฟฟ้าลุยฝนอย่างไรให้ปลอดภัย?
1. ลดความเร็ว
ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วของรถ ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือลดระดับลงมาได้หากต้องขับรถลุยฝน หรือน้ำท่วม เพื่อป้องกันกระแสน้ำที่จะเข้าเครื่องใต้ท้องรถ และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ เพราะหน้าฝนนี้ถนนมักลื่น เสี่ยงอุบัติเหตุมากที่สุด
2. รักษาระยะห่างกับรถคันหน้า
ในช่วงหน้าฝนนี้ อย่าขับกระชั้นชิดรถคันหน้าเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้ ดังนั้นผู้ขับขี่ควรเว้นระยะห่างกับรถคันหน้าที่เหมาะสม กรณีรถข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ อาจช่วยหยุดเบรกกะทันหันได้ทันเวลา
3. ไม่ควรขับรถลุยน้ำท่วมสูง
เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้า EV ผู้ขับขี่ควรขับรถลุยน้ำ ที่ไม่ควรเกินครึ่งล้อรถ (40 เซ็นติเมตร) และไม่ควรน้ำรถแช่น้ำเป็นเวลานานๆ เกินกว่า 30 นาที เพื่อป้องกันน้ำเข้าไปโดนระบบไฟฟ้า และชิ้นส่วนเครื่องยนต์
4. ปิดแอร์ขณะลุยน้ำท่วม
ปิดแอร์รถยนต์ทันที เมื่อขับรถลุยน้ำท่วมขัง ไม่ว่าน้ำลึกหรือน้ำตื้น เพราะถ้าน้ำท่วมถึงตัวพัดลม อาจทำให้พัดตีน้ำขึ้นมาโดนบริเวณห้องไฟฟ้าอาจชอร์ตและทำให้เครื่องยนต์ดับได้
5. อย่าลืมเหยียบเบรกย้ำๆ
เมื่อขับพ้นน้ำท่วม อย่าลืมที่จะเหยียบเบรกย้ำ ๆ เพื่อช่วยไล่น้ำออกจากผ้าเบรก แล้วถึงที่หมายอย่าเพิ่งดับเครื่องทันที ให้ติดเครื่องไว้สักพัก ช่วยไล่น้ำและความชื้นที่ค้างอยู่ภายในรถ หลังจากนั้นอย่าลืมนำรถไปทำความสะอาดกันด้วยนะ
ในช่วงหน้าฝนนี้ ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวัง ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง ไม่ควรขับรถลุยน้ำเป็นเวลานานๆ มิเช่นนั้นอาจทำให้รถเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณขับรถไฟฟ้าได้อย่างสบาย และอย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองความเสี่ยงให้มากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุมีคู่กรณี ไม่มีคู่กรณี รถสูญหาย รถไฟไหม้ รวมถึงรถน้ำท่วม หน้าฝนนี้ประกันชั้น 1 ต้องเข้าแล้ว อุ่นใจกว่าเยอะ!!
ขอบคุณข้อมูลจาก: bolttech.co.th
เตรียมเข้าฝน! คนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาจกังวลใจว่า กรณีฝนตกหนักๆ สามารถขับรถไฟฟ้าลุยน้ำท่วมได้ไหม เนื่องจากระบบการทำงานเป็นไฟฟ้า 100% กลัวว่าจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย เป็นอันตรายหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ขับรถยนต์ไฟฟ้า ลุยน้ำท่วมได้ไหม?
คำตอบคือ รถยนต์ไฟฟ้า หรือเรียกกันว่า รถ EV สามารถขับลุยฝนได้ตามปกติ ในกรณีที่น้ำท่วม สามารถขับได้ แต่ไม่ควรเกินครึ่งล้อรถ (40 เซ็นติเมตร) และไม่ควรแช่น้ำนานๆ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที โดยต้องขับไปอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดมะวัง
รถยนต์ไฟฟ้าทุกคัน ต้องได้รับการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) คือ ค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าไปในแบตเตอรี่ ผ่านการทดสอบหลายขั้นตอน นอกจากนี้ยังทดสอบว่า อุปกรณ์ต่างๆ มีการหุ้มฉนวนดีหรือไม่ ออกเป็นค่า IP โดยค่ามาตรฐานในการป้องกันตัวรถไม่ต่ำกว่า IP67 เปรียบเสมือนตัวการันตีว่า สามารถขับลุยน้ำท่วมลึกไม่เกิน 1 เมตร ได้ไม่เกิน 30 นาที
ทำไมถึงไม่ควรขับรถไฟฟ้าลุยน้ำเกิน 30 นาที?
ถึงแม้รถไฟฟ้า EV สามารถลุยน้ำท่วมได้ประมาณ 30 นาที แต่ถ้าคุณขับรถลุยน้ำเกินกว่านั้น อาจมีโอกาสที่น้ำเข้าไปในระบบแบตเตอรี ทำให้แบตเตอรีช็อต เสียหาย หากเเบตรถเสียหายขึ้นมาจะทำให้เครื่องยนต์ดับลง สตาร์ทรถไม่ติด และคุณควรประเมินสถานการ์ให้รอบคอบ ถ้าเห็นว่าระดับน้ำท่วมสูง มีโอกาสเสี่ยงก็อย่าฝืนขับต่อ มิเช่นนั้นหกรถเสียขึ้นมา ต้องเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ บางทีเปลี่ยนยกชุดเลย กันไว้ก่อนดีกว่าแก้
ขับรถไฟฟ้าลุยฝนอย่างไรให้ปลอดภัย?
1. ลดความเร็ว
ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วของรถ ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือลดระดับลงมาได้หากต้องขับรถลุยฝน หรือน้ำท่วม เพื่อป้องกันกระแสน้ำที่จะเข้าเครื่องใต้ท้องรถ และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ เพราะหน้าฝนนี้ถนนมักลื่น เสี่ยงอุบัติเหตุมากที่สุด
2. รักษาระยะห่างกับรถคันหน้า
ในช่วงหน้าฝนนี้ อย่าขับกระชั้นชิดรถคันหน้าเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้ ดังนั้นผู้ขับขี่ควรเว้นระยะห่างกับรถคันหน้าที่เหมาะสม กรณีรถข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ อาจช่วยหยุดเบรกกะทันหันได้ทันเวลา
3. ไม่ควรขับรถลุยน้ำท่วมสูง
เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้า EV ผู้ขับขี่ควรขับรถลุยน้ำ ที่ไม่ควรเกินครึ่งล้อรถ (40 เซ็นติเมตร) และไม่ควรน้ำรถแช่น้ำเป็นเวลานานๆ เกินกว่า 30 นาที เพื่อป้องกันน้ำเข้าไปโดนระบบไฟฟ้า และชิ้นส่วนเครื่องยนต์
4. ปิดแอร์ขณะลุยน้ำท่วม
5. อย่าลืมเหยียบเบรกย้ำๆ
เมื่อขับพ้นน้ำท่วม อย่าลืมที่จะเหยียบเบรกย้ำ ๆ เพื่อช่วยไล่น้ำออกจากผ้าเบรก แล้วถึงที่หมายอย่าเพิ่งดับเครื่องทันที ให้ติดเครื่องไว้สักพัก ช่วยไล่น้ำและความชื้นที่ค้างอยู่ภายในรถ หลังจากนั้นอย่าลืมนำรถไปทำความสะอาดกันด้วยนะ
ในช่วงหน้าฝนนี้ ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวัง ตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทาง ไม่ควรขับรถลุยน้ำเป็นเวลานานๆ มิเช่นนั้นอาจทำให้รถเสียหาย หรือเกิดอุบัติเหตุตามมาได้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณขับรถไฟฟ้าได้อย่างสบาย และอย่าลืมซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองความเสี่ยงให้มากที่สุด ทั้งอุบัติเหตุมีคู่กรณี ไม่มีคู่กรณี รถสูญหาย รถไฟไหม้ รวมถึงรถน้ำท่วม หน้าฝนนี้ประกันชั้น 1 ต้องเข้าแล้ว อุ่นใจกว่าเยอะ!!
ขอบคุณข้อมูลจาก: bolttech.co.th