สำหรับคนที่มีรถกระบะหรือรถปิคอัพ ที่กำลังมองหาประกันรถกระบะเพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับรถยนต์คู่ใจ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกประกันรถแบบไหน ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ไม่ต้องไปหาข้อมูลจากที่อื่นให้เสียเวลา เพราะรู้ใจลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้เรียบร้อยแล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันได้เลย
• ประกันรถกระบะมีกี่ประเภท คุ้มครองอะไรบ้าง?
• ซื้อประกันรถกระบะยังไง ให้คุ้มค่ามากที่สุด?
• รถกระบะมือสอง ควรซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนดี?
• การขับขี่ของเราเหมาะกับประกันรถกระบะแบบไหน?
ประกันรถกระบะมีกี่ประเภท คุ้มครองอะไรบ้าง?
ก่อนจะไปทำความรู้จักทริคเลือกซื้อประกันรถกระบะ หรืออีกชื่อที่ติดปากว่ารถปิคอัพ เรามาทำความรู้จัก “ประเภท” ของประกันภัยรถกระบะกันก่อนดีกว่า เพื่อให้คุณเข้าใจถึงความคุ้มครอง และสามารถเลือกซื้อประกันที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด
ประกันชั้น 1
ประกันชั้น 1 เป็นประกันรถยนต์ ที่ให้การคุ้มครองอย่างครบถ้วน ทั้งต่อรถยนต์ที่เอาประกันและรถยนต์คู่กรณี เหมาะสำหรับรถยนต์ออกใหม่ป้ายแดง และคนที่เพิ่งหัดขับรถยนต์ใหม่ ๆ โดยมีรายละเอียดการคุ้มครอง ดังนี้
• คุ้มครองค่าเสียหายของทรัพย์สิน ทั้งรถคันเอาประกันและรถคันคู่กรณี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่ายา สำหรับผู้ขับและผู้โดยสารจากรถคันเอาประกันและรถคู่กรณี
• คุ้มครองค่าเสียหาย เนื่องจากเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม โจรกรรม อุบัติเหตุ
ประกันชั้น 2+
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 2 พลัส เมื่อเทียบกับชั้น 1 แล้ว ความคุ้มครองไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แถมยังมีข้อดีคือ “ค่าเบี้ยประกันรายปีไม่สูงเท่าชั้น 1” ส่วนข้อเสียคือมีบางเงื่อนไขที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง เนื่องจากประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองเฉพาะเมื่อชนกับคู่กรณีที่เป็นรถเท่านั้น
สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหา “เพื่อนคู่ใจรถปิคอัพของคุณ” ระหว่างเดินทางบนท้องถนน รวมถึง “มีประวัติการขับขี่ดี” เป็นทุนเดิม บอกได้ว่าประกันรถกระบะชั้น 2+ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ด้านความคุ้มครองที่ (เกือบ) ครอบคลุมได้ดีมาก ๆ
ประกันชั้น 2
ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองเฉพาะในส่วนของการสูญหาย ไฟไหม้ แต่ในด้านทรัพย์สิน และจะให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนของ “คู่กรณี” เท่านั้น ดังนั้นประกันประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับผู้เอาประกันที่ขับรถได้ดีในระดับหนึ่ง หรือไม่ได้นำรถยนต์คู่ใจไปจอดในสถานที่เปลี่ยวบ่อยครั้ง
ประกันชั้น 3+
ประกันชั้น 3+ เป็นประกันรถกระบะ ที่คุ้มครองความเสียหายเฉพาะกรณี “รถชนรถ” เท่านั้น โดยไม่คุ้มครองค่าเสียหายในกรณีเกิดไฟไหม้ น้ำท่วม สูญหาย หรือถูกโจรกรรม สำหรับรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้นำออกไปใช้งาน หรือมีอายุมากกว่า 10 ปี บอกเลยว่าประกันภัยประเภทนี้ตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ ทั้งในเรื่องของความคุ้มครอง และค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างถูก
ประกันชั้น 3
ประกันชั้น 3 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่ค่าเบี้ยถูกที่สุด ส่งผลให้ความคุ้มครองน้อยตามไปด้วย โดยให้ความคุ้มครองเฉพาะชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น ทั้งนี้กรณีที่ผู้เอาประกัน “เป็นฝ่ายผิด” ความคุ้มครองจะเป็นไปตามวงเงินที่ทำสัญญาไว้ในตอนแรก ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้สำหรับผู้บาดเจ็บ หรือค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี ซึ่งจะไม่เกินวงเงินที่กำหนด
ซื้อประกันรถกระบะยังไง ให้คุ้มค่ามากที่สุด?
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาวิธีซื้อประกันรถกระบะชั้น 1 หรือประกันชั้นอื่นให้รถปิคอัพของคุณอย่างคุ้มค่ามากที่สุด แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำวิธีไหน วันนี้รู้ใจมีทริคลดเบี้ยประกันมาให้แล้ว แถมยังได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมอีกด้วย ว่าแล้วไปดูรายละเอียดกันเลย!
1. มีประวัติการเคลมดี
ประวัติการเคลมที่ดีในประกันรถกระบะนับเป็นอีกหนึ่ง “ตัวช่วย” ในการลดค่าเบี้ยประกันในปีถัดไปได้ดีที่สุด แถมยังเป็นข้อบังคับจาก คปภ. อีกด้วย ซึ่งระบุเอาไว้ว่า “หากผู้เอาประกันไม่มีประวัติการเคลม หรือไม่มีอุบัติเหตุเลยทั้งปี จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ‘ถูกที่สุด’ จากบริษัทมากถึง 50%”
2. ชื่อผู้ขับขี่ กรณีมีผู้ขับไม่เกิน 2 คน
ทริคนี้เหมาะสำหรับผู้เอาประกันที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว เช่น รถกระบะ/รถปิคอัพ รถเก๋ง แบบที่ไม่มีการให้ใครหยิบยืมไปใช้ โดยสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ได้เลย ส่วนใหญ่จะได้รับส่วนลดมากถึง 20% ตามประสบการณ์และอายุของผู้ขับขี่
3. กำหนดค่าเสียหายส่วนแรก
ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าเสียหายที่กำหนดว่าผู้เอาประกันจะจ่ายเองหากมีการเคลมเกิดขึ้น โดยสามารถนำยอดนี้ไปลดเบี้ยประกันได้ และทาง คปภ. มีการกำหนดไว้ไม่เกิน 5,000 บาท แถมยังมีโอกาสได้รับส่วนลดค่าเบี้ยสูงถึง 30% สำหรับเบี้ยประกันปีถัดไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ด้วย
4. สถานที่ซ่อมบำรุง
ไม่ว่าจะเป็นอู่ซ่อมในเครือหรือศูนย์บริการในเครือ ล้วนเป็นสิ่งที่บริษัทประกันภัยนำมาพิจารณาค่าเบี้ยประกันรถกระบะชั้น 1 หรือประเภทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยความแตกต่างของทั้ง 2 สถานที่ คือ ค่าใช้จ่ายในการซ่อม แน่นอนว่าหากเจ้าของรถปิคอัพ เลือกแบบซ่อมอู่ จะทำให้ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันรถกระบะ เนื่องจากค่าใช้จ่ายน้อยกว่าซ่อมศูนย์นั่นเอง
5. ติดกล้องหน้ารถ
การติดกล้องหน้ารถจะช่วยให้ผู้เอาประกันได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสำหรับรถกระบะ มากถึง 10% ซึ่งส่วนนี้ทาง คปภ. บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2560 เนื่องจากการติดกล้องหน้ารถถือเป็นพยานชิ้นสำคัญ ที่ช่วยระบุได้อย่างชัดเจนว่าอุบัติเหตุนั้น ๆ ใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด
รถกระบะมือสอง ควรซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภทไหนดี?
สำหรับรถกระบะมือสองที่อยากเพิ่มความคุ้มครองให้รถปิคอัพคู่ใจ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกประเภทไหน แนะนำให้ดูจาก “อายุ” ของรถเป็นหลัก โดยมีรายละเอียดดังนี้
• อายุ 1-5 ปี: ถือเป็นรถที่ค่อนข้างใหม่ เมื่อเป็นรถใหม่ก็ควรทำ
ประกันชั้น 1 เพื่อที่จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม
• อายุ 5-7 ปี: เป็นรถผ่านการใช้งานระยะเวลาหนึ่ง เหมาะกับประกันชั้น 2 หรือ 2+ เนื่องจากผู้ขับขี่มีทักษะในการขับขี่พอสมควร แถมยังช่วยให้ประหยัดค่าเบี้ยได้ด้วย
• อายุมากกว่า 7 ปี: จัดว่าเป็น “รถเก่า” เหมาะสำหรับประกันชั้น 3 เนื่องจากเหมาะกับรถที่ต้องการความคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุ แม้จะไม่ได้คุ้มครองรถตัวเอง แต่คุ้มครองรถคู่กรณีก็ยังดี
การขับขี่ของเราเหมาะกับประกันรถกระบะแบบไหน?
หลังจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับความคุ้มครอง ของประกันภัยรถแต่ละประเภทของรถกระบะ/ปิคอัพ รวมถึงทริคการเลือกซื้อประกันภัยรถปิคอัพที่ให้คุ้มค่ามาคร่าว ๆ แล้ว หลายคนจึงสงสัยว่า แล้วรถกระบะ หรือรถกระบะมือสองแท้จริงแล้วควรเลือกซื้อประกันแบบไหนดี และตอบโจทย์ได้มากกว่า?
ซึ่งจริง ๆ แล้วการเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาดีจะคุ้มครองมากที่สุด แต่การหาประกันที่ใช่และตอบโจทย์ที่สุดไม่ได้อยู่ที่ความคุ้มครองหรือราคาค่าเบี้ยประกันเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับ “พฤติกรรมการขับขี่” ของแต่ละบุคคลด้วยหากสังเกตตัวเองได้ว่ามีพฤติกรรมการขับขี่เป็นแบบไหน จะช่วยให้เลือกประกันภัยรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
• ประกันรถกระบะชั้น 1 ประกันชั้น 1 เหมาะกับผู้ที่ออกรถปิคอัพใหม่หรือมือใหม่หัดขับ ต้องการได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม
• ประกันรถกระบะชั้น 2+ เหมาะกับผู้ที่ขับรถค่อนข้างชำนาญ หรือมักจอดรถในพื้นที่ที่เสี่ยงอัคคีภัยหรือไฟไหม้
• ประกันรถกระบะชั้น 2 เหมาะกับผู้ที่ใช้รถค่อนข้างน้อย หรือขับขี่ชำนาญพอสมควร รวมถึงอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอัคคีภัยหรือไฟไหม้
• ประกันรถกระบะชั้น 3+ เหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย และเหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป
• ประกันรถกระบะชั้น 3 เหมาะกับผู้ที่ใช้รถน้อย ขับขี่ชำนาญ มีประวัติการขับขี่ที่ดี และเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป
เห็นมั้ยว่าการเลือกซื้อประกันรถกระบะ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ๆ ไม่ว่าคุณจะสนใจประกันรถแบบไหน ขอแนะนำให้ตัดสินใจอย่างถี่ถ้วน สำรวจพฤติกรรมการขับขี่ของตัวเองให้ดี รวมถึงเลือกบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า และตอบโจทย์ตลอดอายุกรมธรรม์
สามารถติดตามข่าวสาร สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รวมถึง
ประกันภัยออนไลน์ต่าง ๆ จากรู้ใจได้ที่ Facebook Page: Roojai หรือ
คลิกที่นี่เพื่อเพิ่มเราเป็นเพื่อนใน LINE ได้เลย (Official Line ID: @roojai)